วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทำไมหลวงพ่อจึงไม่ฟ้องกลับไปเลยล่ะหากไม่ผิด???

ทำไมหลวงพ่อจึงไม่ฟ้องกลับไปเลยล่ะหากไม่ผิด???

#ทำไมหลวงพ่อจึงไม่ฟ้องกลับไปเลยล่ะหากไม่ผิด??? ...ท้องฟ้าเรามองว่ากว้างใหญ่ไพศาลแล้ว แต่ก็ยังแคบกว่าใจของนักสร้างบารมี... นักสร้างบารมีที่แท้จริง... ...จะไม่มีศัตรูในใจ มีแต่คำว่าอภัยเสมอ.... ..ทุกย่างก้าวของนักสร้างบารมี จะตักตวงเอาเพียงแค่บุญและกุศล.. ...ตลอดชีวิตของการสร้างบารมี คือการฝึกฝนตน.. ..เรียนรู้พัฒนาจิตใจให้สูงส่ง แม้จะมีวิกฤติการณ์ใดใดเข้ามา ..ไม่ว่าจะดีร้ายสักแค่ไหน นักสร้างบารมีย่อมแปลงวิกฤตินั้นให้เป็นโอกาสในการสั่งสมบารมีให้แก่กล้า ..โดยยึดถือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาในการดำรงตน นักสร้างบารมีจะไม่ทำบาปทั้งปวง.... ..นักสร้างบารมีจะทำแต่ความดีให้ถึงพร้อม นักสร้างบารมีจะเพียรทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว ..พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ท่านเป็นยอดนักสร้างบารมี ..มีขันติคือความอดทนซึ่งเป็นตบะอย่างยิ่ง แม้จะมีใครมากล่าวว่าร้ายท่านมากมายร้ายแรงสักแค่ไหน .. หลวงพ่อท่านก็นิ่งสงบระงับ ..มีแต่แผ่เมตตาไปยังหมู่ชนเหล่านั้น มิเคยผูกโกรธ.. ..มิเคยกล่าวตอบ ไม่เคยทำร้ายผู้อื่น.. ..แม้แต่วาจาของท่านก็มิเคยได้ยินว่าท่านว่าร้ายใคร คำสอนอันเลิศยิ่ง6อย่างของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ...คือการไม่กล่าวร้าย ...การไม่ทำร้าย ...ความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ ...เป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร ...ที่นอนที่นั่งอันสงัด ...การประกอบความเพียรในอธิจิต 6สิ่งอย่างนี้... หลวงพ่อท่านมิเคยได้พร่องเลยแม้แต่น้อย ...ท่านล้วนสมบูรณ์ด้วยจรณะอันดีงาม แล้วจะกล่าวไปใย.... ถึงธรรมอันลามกที่คนอื่นประเคนถวายท่าน... ..ท่านสงบระงับแล้ว ไม่โกรธตอบ... ..เพราะใจท่านไม่เคยมีใครเป็นศัตรู ยืนยันด้วยมโนปณิธานอันสูงส่ง.. ..ที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ห้ามห้วงแห่งทุกข์คือที่สุดแห่งธรรม.. พวกเราเหล่าศิษยานุศิษย์.. ..พึงประพฤติตามรอยของครูบาอาจารย์ ให้สมเป็นหมู่คณะที่จะช่วยพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ...ไปให้ถึงเป้าหมายดั่งมโนปณิธานที่ตั้งไว้ ... ...ถ้าเราเป็นนักสร้างบารมีที่แท้จริง จงอย่าเอาใครมาเป็นศัตรูไว้ในใจ ...หากเราทำไม่ได้แล้วจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ข้ามไปได้อย่างไร .... ..#เรารักวัดพระธรรมกาย Credit; Sompong Tongdeewieng 23 มีนาคม 2560

ดูให้จบ!!! เปิดโปงแผนต้นแบบฆ่าล้างพุทธจากเวียตนามถึงไทย จุดจบเป็นอย่างไร??

วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560

มส.ไม่มีสิทธิ์“สึก”พระธัมมชโย! อยากรู้ไหมว่าทำไม ?

มส.ไม่มีสิทธิ์“สึก”พระธัมมชโย! ทำไม ?



คงเป็นที่สงสัยกันมากว่าทำไม กรรมการมหาเถรสมาคม จึงไม่มีมติ“สึก”พระไชยบูลย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

เหตุผลหนึ่งก็คือ มส. ไม่มีสิทธิสึกพระ! ไม่ว่าจะเป็นพระรูปใดก็ตาม แม้ว่าจะได้รับอำนาจในการใช้กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21* พ.ศ. 2538 อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11(พ.ศ. 2521) ว่าด้วยการลงนิคหกรรม ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 นั้นหมายถึง การลงโทษตามพระธรรมวินัย คือ ถ้ามีพระในวัดหนึ่งวัดใดในจังหวัดทำความผิด เจ้าคณะจังหวัดก็จะเป็นผู้ตัดสินก่อน 

ถึงแม้ว่าจะส่งเรื่องไปที่มหาเถรสมาคม ทางมหาเถรสมาคมก็จะมีคำสั่งกลับไปที่เจ้าคณะจังหวัดอยู่ดีว่า ให้ดูเรื่องนี้ ให้ตัดสินเรื่องนี้ ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้
โดยหลักของมหาเถรสมาคม ตัดสินเองไม่ได้ เพราะจะผิด กฎพ.ร.บ.สงฆ์ ข้อนิคหกรรม
...................................................
คำตอบว่า
ทำไมมส. ไม่มีสิทธิ์สึกพระธัมมชโย

            ดังนั้น ท่านจึงต้องส่งเรื่องกลับไปยังศาลขั้นต้นของพระ ก็คือ ผู้ปกครองที่ใกล้ชิดที่สุด ก็คือ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องวัดพระธรรมกายมากที่สุด ใกล้ชิดท่านมากที่สุด ซึ่งก็เข้าตามหลักพระธรรมวินัย ก็คือ ผู้ปกครองตัดสินผู้ที่อยู่ใต้ปกครอง
...................................................

โดยลำดับการปกครองก็คือ เจ้าอาวาส ดูแลพระลูกวัด มีอำนาจในการปกครอง ในการตัดสิน ในการวินิจฉัย เจ้าคณะตำบลก็ปกครองวัดต่างๆ ในตำบล เจ้าคณะอำเภอก็ปกครองวัดต่างๆ ในอำเภอ เจ้าคณะจังหวัดก็ปกครองวัดต่างๆ ในจังหวัด
เพราะฉะนั้นการตัดสินเบื้องต้นจึงกลับไปที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งในรายละเอียดก็ต้องมีการไต่สวนเป็นลำดับๆ ไป 

...................................................
เหตุนี้ ในพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เกี่ยวกับกรณีพระธัมมชโยเมื่อ ปี 2542 มหาเถรสมาคมก็ทำอะไรไม่ได้ 
...................................................

เช่นเดียวกับพ.ศ.นี้ ที่แม้จะมีพระบัญชาจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมภโร) ออกมาให้กรรมการมหาเถรสมาคมดำเนินการในเรื่องนี้ก็ตาม แต่กรรมการมหาเถรสมาคมก็ไม่สามารถตัดสินได้  เพราะถ้าตัดสิน ก็ผิดกฎนิคหกรรม ! หรือละเมิดกฎนิคหกรรม

กฎนิคหกรรม ใครเป็นคนตั้ง
คณะสงฆ์เป็นผู้ออกกฎ กลายเป็นกฎหมายพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ถ้าท่านทำก็เป็นการละเมิดกฎเอง


    ซึ่งมติของกรรมการมหาเถรสมาคมในการประชุมครั้งที่ 6/2560 ณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560  โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมภโร) เป็นประธานในที่ประชุม ก็ได้ทำถูกแล้ว ที่ไม่สึกพระธัมมชโย 

แต่ส่งเรื่องกลับไปที่เจ้าคณะหนใหญ่กลาง แล้วก็ลงมาสู่เจ้าคณะจังหวัดในที่สุด 

ขอบคุณ
เพจ วัดสระเกศวรมหาวิหาร

ควรยกเลิกม.44 และมอบอำนาจให้สงฆ์วินิจฉัยว่าจะต้องสละสมณะเพศหรือไม่ by วัฒนา เมืองสุข


เฟซบุ๊ก "Watana Muangsook" วิจารณ์การทำงานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่า

          ตั้งแง่กับ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จนเกิดความสูญเสียมากมายทั้งชีวิตผู้บริสุทธิ์ และงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งการใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งปิดล้อมวัดพระธรรมกายและทำทุกอย่างเพียงเพื่อนำตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหานั้น 

มองว่า เกินความจำเป็น 

--------------------------------------------

      จึงเชื่อว่า รัฐบาลมีเจตนาแอบแฝง ดังนั้น ควรจะต้องยกเลิก ม.44 และคืนพื้นที่ให้ชาวธรรมกาย แม้การเข้าวัดปฏิบัติธรรมจะมีข้อครหาว่าเป็นไปตามแนวทางพุทธหรือไม่ ก็ยังดีกว่าการยกพวกไปปิดบ้านเมือง

ธรรมกาย...ความจริงที่ถูกบิดเบือน

คดีนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเห็นว่า การที่พระธัมมชโยรับบริจาคเงินจากผู้บริหารสหกรณ์คลองจั่น เป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินหรือรับของโจร จึงเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ผู้ต้องหาอ้างความเจ็บป่วยไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจึงถูกออกหมายจับ ทั้งที่ตามกฎหมายการแจ้งข้อกล่าวหาสามารถทำได้ทุกที่ เช่น แจ้งในเรือนจำกรณีผู้ถูกกล่าวหาถูกจำคุก ดังนั้น หากดีเอสไอไม่ตั้งแง่ยอมไปพบพระธัมมชโยตามที่ถูกร้องขอ แล้วแจ้งข้อกล่าวหาในวัดที่พบตัวทุกอย่างก็จะจบลงโดยไม่ต้องออกหมายเรียก รวมทั้งไม่เกิดความสูญเสียอย่างที่เห็น

คดีของพระธัมมชโยจึงต้องถือว่ายังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนการที่ผู้ต้องหาไม่ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกก็ไม่เป็นความผิด ทางแก้คือให้ออกหมายจับได้ ซึ่งถือเป็นการลงโทษอยู่แล้ว (คำพิพากษาฎีกาที่ 1341/2509) ดังนั้น การที่หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวออกคำสั่งปิดล้อมวัดพระธรรมกาย ห้ามประชาชนและพระสงฆ์เข้าออกวัด ยึดอาหารพระ ตัดสัญญาณการสื่อสาร สูญเสียงบประมาณ สังเวยชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ไป 2 ราย พระสงฆ์และประชาชนถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก เพียงเพื่อนำตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาจึงเกินความจำเป็น ทำให้ไม่อาจคิดเป็นอย่างอื่นนอกจากรัฐบาลมีเจตนาแอบแฝง

บัดนี้ เหตุที่เป็นข้ออ้างจบสิ้นลงแล้ว รัฐบาลจึงต้องยกเลิกคำสั่ง ถอนกำลังเจ้าหน้าที่กลับและคืนพื้นที่ให้ชาวธรรมกาย แม้การเข้าวัดปฏิบัติธรรมจะมีข้อครหาว่าเป็นไปตามแนวทางพุทธหรือไม่ ก็ยังดีกว่าการยกพวกไปปิดบ้านเมืองอย่างแน่นอน อีกทั้งการที่ไม่พบผู้ต้องหาก็จะต้องยกเลิกข้อกล่าวหาเจ้าอาวาสที่หาว่าวัดให้ที่หลบซ่อนแก่ผู้ต้องหาด้วย สำหรับการวินิจฉัยให้พระธัมมชโยต้องสละสมณเพศหรือไม่จะต้องปฏิบัติตามกฎ มส. ฉบับที่ 11 ว่าด้วยการลงนิคหกรรม อันเป็นวิธีกล่าวหาพระซึ่งพระพุทธเจ้าทรงมอบอำนาจให้แก่สงฆ์เป็นผู้พิจารณาชี้ขาดในรูปแบบสังฆกรรม ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ต้องคืนให้ผู้เหมาะสม เพราะไม่มีความชอบธรรมที่ฝ่ายปราบปรามจะไปควบคุมดูแลงานของศาสนจักร


วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
13 มีนาคม 2560

อ่านต่อที่

เพราะได้ครูดี จึงเอาดีได้

[จะลัทธิ จะสาวก ]

->>ไม่ได้ทำให้ศรัทธาเราลดลงเลย

คนมาด่าว่าเราเลว เราโง่ งมงาย
->>เราก็ไม่เป็นต้องเลว หรือโง่ งมงายไปด้วย
เขาพูดคำหยาบมา
->>เราก็ไม่จำเป็นต้องหยาบตามเขาป่ะ

ถ้าสาดโคลนมาแล้วเราสาดด้วยน้ำดี ทั้งเราทั้งเขาก็จะสะอาดทั้งคู่

อย่าเอาความชั่วของคนอื่น มาทำให้เราต้องทำชั่วตามเค้า

#คุณครูไม่เล็ก กล่าวไว้
กราบเท้าครูไม่เล็กค่ะ

เพราะได้ครูดี จึงเอาดีได้ (หลวงพ่อทัตตชีโว)
      หนูเขียนเพื่อบูชาธรรมหลวงพ่อทัตตะ ที่หนูเคารพรักค่ะ ที่หนูเป็นคนดี เป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่ เพราะมีวัดพระธรรมกาย มีคุณยาย มีหลวงพ่อทั้งสองคือหลวงพ่อธัมมะ และหลวงพ่อทัตตะค่ะ หนูขอกราบขอบพระคุณที่อบรมสั่งสอน มีวัดให้เป็นสถานที่ฝึกความอดทน และบ่มเพาะนิสัยดีๆ มากมาย

      กราบแทบเท้ามหาปูชนียาจารย์สุดหัวใจ
                               
 Cr. Amie kamonthip

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

DSI ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล....กราบถวายกำลังใจแด่ "มหาเถระ" ทุกรูปที่ปกป้องพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเศียรเกล้า

"กราบถวายกำลังใจ"


ไม่ได้ด้วยเล่ห์.. ก็เอาด้วยกล

ไม่ได้ด้วยมนต์.. ก็ต้องใช้คาถา

เมื่อ DSI หมดปัญญาที่จะหาเหตุ"บุก"เข้าวัดพระธรรมกาย

เพราะภายในไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจาก"เสียงสวดมนต์"

แผนที่ 1 การใช้กำลังเข้าโจมตีจึงมิใช่มาตรการที่ดี


แผนการจับกุม พระธัมมชโย


แผนที่ 2.. 3.. 4.. จึงทยอยปล่อยออกมา

เริ่มจากกระปุก"ออมสิน"ที่เผลอปูดมาว่า..

เมื่อถอดสมณศักดิ์แล้วเจอที่ไหนก็จับได้ทันที

ร้อนถึง ผอ.พศ. ต้องรีบออกมาแก้ข่าวให้ทันควัน.!!!

แผนขั้นต่อไปคือ"บีบ"ให้มหาเถรสมาคมออกคำสั่ง..



ให้"พ้น"กลางอากาศแบบที่เคยทำกับ อ.ยันตระ..

แต่ที่ประชุม มส. ก็รู้ว่ามันต่างกรรมต่างวาระ..

มิได้มีความเหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว.!!!

จึงขอกราบและเป็นกำลังใจแด่"มหาเถร"ทุกรูป


ที่ไม่เคยคิดก้มหัวให้กับความอยุติธรรม

ยินยอมให้"ฆราวาส"มามีอำนาจอยู่เหนือ

พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าด้วยเศียรเกล้า.!!!




Cr. Kajornsak@Fone

บทความที่เกี่ยวข้อง
แผนเหนือเมฆ งานนี้กระพริบตาไม่ได้ เมื่อเผือกร้อนถูกใครบางคนโยนมาให้ ที่ประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม โดยมีจุดประสงค์เพื่อบีบให้ชี้ขาดสมณเพศ ของพระธัมมชโย !!

ด่วนที่สุด.....เร่งระงับ พรบ.เทวทัต อุบาทย์ทำลายพระพุทธศาสนา

ด่วนที่สุด.....เร่งระงับ พรบ.เทวทัต 
อุบาทย์ทำลายพระพุทธศาสนา

7 มีนาคม 2560

คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เข้ายื่นหนังสือ รัองเรียนและคัดคัาน ร่างพรบ. สภาพุทธบริษัท    

จัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุสงฆ์ อื่น ๆ

เป็นร่าง พรบ.มหาโจรปล้นพระพุทธศาสนา ....

ที่สำนักงานเลขาวุฒิสภา ฯลฯ

ถึงนายกรัฐมนตรีประยุทธ์จันทร์โอชา

เรื่อง  ขอความอนุเคราะห์โปรดระงับพรบทุกฉบับที่ขัดต่อพระธรรมวินัยและโบราณราชประเพณี ...













Cr. เส้นทางบุญ
@Pathofboon

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

นักสู้มือเปล่า

"นักสู้มือเปล่า"

คำนี้ถ้ามาจากฝั่งธรรมกายก็คงไม่แปลก..

แต่นี่"เป็นคำ"ที่นักข่าวต่างประเทศพาดหัวให้..

มันจึงเป็นอะไรที่บ่งบอกถึง"ความหมาย"ยิ่งนัก.!!!

สื่อไทยไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม..

มากน้อยก็ต้องคอย"เอาใจ"รัฐบาลทหาร.!!

การนำเสนอข่าวจึงต้องรักษาภาพลักษณ์..กองทัพ

แม้กระนั้นก็ยังไม่เป็นที่พอใจของผู้ที่มีอำนาจ

ยังอยากจะได้มากกว่านี้และมากขึ้นไปเรื่อยๆ.!!!

ณ.ดิถีเพ็ญนี้แล้ว.! งานเลี้ยงใกล้เลิกรา.! 

ก็คงต้องดูกันว่า.. อำนาจที่ใช้โดยมิชอบธรรม

ในที่สุดจะนำความปราชัยมาให้เช่นไร!!!


cr. Kajornsak@Fone

“พระหล่อ-เพลงเด็ด” เมื่อธรรมกายมาเหนือ รัฐจะแก้เกมส์อย่างไร?

“พระหล่อ-เพลงเด็ด” 
เมื่อธรรมกายมาเหนือ รัฐจะแก้เกมส์อย่างไร?




ดุเด็ดเผ็ดมันยิ่งขึ้นเรื่อยๆ 

กับมหกรรมปิดล้อมวัดธรรมกาย 
ศัตรูหมายเลข 1 
ของรัฐบาลในขณะนี้ 

ด้วยตัวท่านผู้นำเองก็มุ่งมั่นจะล้มให้ได้ งัดไม้ตายสารพัดมากำจัด ทั้ง ม.44 ที่ใครต่อใครก็กลัวหนักกลัวหนา การใช้ทหาร ตำรวจ DSI วันละ 5,000 นายปิดล้อมวัด สกัดทางเข้าออก ปิดกั้นเสบียง ตัดสัญญาณมือถือ ตัดอินเตอร์เน็ต เอาเฮลิคอปเตอร์บินวนเหนือวัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฯลฯ 



แต่วัดธรรมกายก็ยังไม่ตาย 
แถมมิวายยิ่งตียิ่งดัง 


ซึ่งล่าสุดงัดกลยุทธ์ประชานิยม 
“พระหล่อ-เพลงเด็ด” มาสู้ 
จากคนที่เบื่อข่าวธรรมกายไม่ตายสักที 
กลายเป็นคึกคักโยกเป็นจังหวะ 
พร้อมส่ง"มินิฮาร์ท"
ให้ธรรมกายกันยกใหญ่



 ทั้งหมดนี้ไม่เรียกว่า “มาเหนือ” 
แล้วจะเรียกอะไร ? 

ในยุคโลก 4G ที่มีโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอยู่ทุกส่วนของชีวิต เป็นยุคที่ใครจะสร้างคอนเทนต์และเผยแพร่ผ่านช่องทางของตัวเองอย่างไรก็ได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว งานนี้เลยไม่แปลกหากศิษย์ธรรมกายที่มีเป็นแสนเป็นล้านจะขยันสร้างคอนเทนต์โต้ตอบทีมเอเจนซี่ของรัฐบาล ทั้งในรูปแบบการ์ด ข้อความ บทความ จนมาล่าสุดเป็นมิวสิควีดีโอ งานนี้รัฐอาจคิดว่าตัดเน็ตในวัดธรรมกายแล้วเขาน่าจะอยู่เงียบๆ ได้ แต่อย่าลืมว่าศิษย์ธรรมกายอยู่ในวัดแค่หลักหมื่น ส่วนอีกหลักแสนคนอยู่นอกวัด ที่สำคัญคือ มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นลูกศิษย์วัดนี้ 



การโต้ตอบของวัดธรรมกายมีวิวัฒนาการการสู้รบแบบคาดไม่ถึง ตั้งแต่วิธีการตั้งม็อบสวดมนต์ เรียกว่าทหารตำรวจจะยืนล้อมอย่างไร ชาวธรรมกายก็นั่งสวดมนต์ นี่แหละคือความน่ากลัว ที่น่ากลัวเพราะมันนิ่ง จนเดาทางไม่ออก ถ้าเป็นม็อบอื่น ดูการเคลื่อนไหวของแกนนำ ดูคำพูดเจราจาปราศรัย เดี๋ยวก็รู้ว่าจะทำอะไรกันต่อไป แม้มีการใช้ปฏิบัติการจิตวิทยาเข้ามาพูดเกลี่ยกล่อม ชาวธรรมกายก็ทำหูทวนลม ปากก็สวดมนต์ต่อไป




นี่แหละธรรมกาย งัดแม่ไม้ “นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว” สวดมนต์จิตผ่องใส จนตำรวจทหารที่มาเฝ้าวัดพากันบ่นอุบว่าโดนเสียงสวดมนต์หลอกหลอนจนกลับไปนอนยังฝันถึง 

งานนี้ฝ่ายเอเจนซี่ของรัฐบาลเลยอดได้ภาพการกระทำรุนแรงของพระคุณเจ้าไป เพราะพระไม่ยอมเล่นไม้แข็งด้วย

แม้จะมีเหตุการณ์ปะทะกันอยู่วันหนึ่ง 
ฝ่ายรัฐบาลก็เสียเปรียบอีก 
เพราะมีภาพปรากฏชัด
ว่าทำพระบาดเจ็บ
ทำญาติโยมเขาซี่โครงหัก 

เกมส์นี้เป็นอันแพ้ไป



เหตุการณ์ต่อมามีลุงสูงวัยปีนเสาขู่จะฆ่าตัวตาย หากไม่ยกเลิกม.44 ก่อน 3 ทุ่ม และในที่สุดลุงก็ปลิดชีวิตตนเองด้วยการผูกคอ 


กลายเป็นศพแรกที่สังเวย ม.44
ทำเอารัฐบาลต้องออกแก้วุ่นวาย
ว่าไม่ได้ตายเพราะม.44 



ที่พลาดท่าสุดคือเรื่องราวการตายของผู้ช่วยพยาบาลที่ทีมกู้ชีพติดด่านจนไปช่วยชีวิตไม่ทัน งานนี้ชาวธรรมกายส่งภาพแคปเจอร์หน้าจอไลน์ที่ผู้ตายพิมพ์ค้างไว้ ว่อนไปทั่วโลก จนไปถึงมือนักข่าวให้เผยแพร่กันทุกสำนัก 

รัฐบาลซึ่งแถลงข่าวทีหลัง
ยังกล่าวยันด้วยตัวเลข
ตายมาแล้ว 5 ชั่วโมง 


ทำเอาศิษย์วัดของขึ้น
กล่าวหารัฐว่าทำร้ายได้แม้กระทั่งคนตายแล้ว 
และผลสรุปตอนท้ายฝ่ายวัดธรรมกายถูกต้อง 





มาล่าสุด ปิดปากพระสนิทวงศ์
 พระเซเลปนักแถลงข่าวแบบ official ของวัดได้


........................

 ทำให้ธรรมกายต้องส่งตัวแทนคนใหม่มา ผู้สื่อข่าวหญิงเห็นหน้าก็ขอให้พระทำท่ามินิฮาร์ทให้หน่อย พอพระทำพร้อมโปรยยิ้ม นักข่าวสาวกรี๊ดกันยกใหญ่ 


แม้ในโลกโซเชี่ยลก็ตั้งฉายา 

“พระโอปป้า” 
ถามว่ารู้ไหมพระแถลงอะไร 
ตอบไม่รู้ รู้แต่พระหล่อ


ผลงานชิ้นโบว์แดงสุดท้าย ณ ขณะนี้ คือ การต่อสู้ด้วยบทเพลงที่ดังเพียงชั่วข้ามคืน “ฉันก็รักวัดของฉัน” ซึ่งดัดแปลงมาจากเพลงประกอบละครสามีตีตราอันโด่งดังของนักร้องดูโอ้ นิว-จิ๋ว 



เพลงนี้โดยต้นทุนเดิมเนื้อหาก็แรงจนสะเทือนไตอยู่แล้ว มาแปลงสารส่งอินเนอร์สะท้อนหัวใจชาวธรรมกายในขณะนี้อีก ยิ่งได้คะแนนน่าสงสาร เอาว่าแม้จะเกลียดวัดนี้แค่ไหน แต่ก็เห็นใจเขา เขาจะนับถือของเขา เขาผิดด้วยหรือ ? 

แต่ศึกนี้ยังไม่จบ ทั้งรัฐบาลและธรรมกายจะหยิบไม้เด็ดอะไรมาใช้ในการแย่งพื้นที่ข่าวสาร ช่างเป็นสิ่งที่น่าติดตาม และล้วนเป็นเคส สตัดดี้ที่น่าศึกษาทั้งสิ้น



และหวังใจลึกๆว่าหนังเรื่องนี้

จะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง





*************

   Cr. อาชัญ
8 มีนาคม 60

วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

ปรากฏการณ์วัดพระธรรมกายสู้ด้วยใจใส ใจสบาย

"ใจใสใจสบาย"


ม.44 เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4..

จนบิ๊กตู่บอกถ้า44 ไม่ได้ผลอาจต้องเพิ่มเป็น88

สรรพกำลัง..​ สรรพวิธี.. สรรพกระทรวง

ประชุม.. วางแผน.. แก้ข่าว.. ตอบคำถามฯลฯ

ในประเทศก็สั่งการไปยังผู้ว่าทุกจังหวัด..

ให้คอยสกัดมวลชนที่จะมาร่วมสวดมนต์

ผบ.ทบ.. แม่ทัพภาค1.. จับตาดูอย่างใกล้ชิด

"บัวแก้ว"ต้องกำชับไปถึง"ฑูต"ไทยทั่วโลก

คอยแก้ข่าวให้รัฐบาลต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

ฝ่ายเศรษฐกิจ"ก้มหน้า"ตอบคำถามนักลงทุน

เพราะความ"เชื่อมั่น"กำลังดิ่งลงเหว.!!

กระทรวง ICT ต้องคอยปิดเพจที่ไม่เชียร์รัฐบาล

แต่"พระมหาทศพร"ทำในเช้าวันนี้ตอนแถลงข่าว..

คือออกมาส่ง"มินิฮาร์ท"ให้กองทัพสื่อมวลชน..

โอพระเจ้า จอร์จ มันยอดมาก.!

พระคุณเจ้า.. ไม่ทราบเลยหรือครับว่า..

เขากำลังจะ"เครียดตาย"กันอยู่แล้วครับ.!!!





(วัดพระธรรมกายแถลงข่าวฉบับเต็มวันที่ 6 มีนาคม 2560)                   http://myalphabet2016.blogspot.com/2017/03/6-2560.html                                                                                             

Cr. Kajornsak@Fone

ธรรมกาย เผยรัฐใช้งบหลายสิบล้านล้อมวัด สู้เอาไปให้ประชาชนได้ประโยชน์กว่า (แถลงข่าววันที่ 6 มีนาคม 2560)



(เนื่องจากวันนี้ สถานการณ์ค่อนข้างอ่อนไหว ขอแถลงข่าว แต่ไม่ขอตอบคำถาม ท่านใดมีคำถามให้ส่งได้ที่ผู้ประสานงาน) 



คำชี้แจงวัดพระธรรมกาย 
วันที่ 6 มีนาคม 2560 เวลา 10 : 00 น.


             1. วันที่ 19 ของการที่วัดพระธรรมกาย ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและรัฐใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 60 – 95 ล้านบาท  ขณะที่คนไทย มี 70 กว่าล้านคน ถ้ารัฐนำเงินงบประมาณนี้ มามอบให้ทหาร ตำรวจ dsi ที่มาตากแดด ทนร้อน และให้คนไทยทั้งประเทศ คนละ 1 ล้านบาท ก็ได้ประโยชน์มากกว่า การนำงบประมาณมาล้อมวัด กับข้อหา “ขัดหมายเรียก” ที่มีค่าปรับเพียง 500 บาท เท่านั้น 




             2.เมื่อวาน วันอาทิตย์ที่ 5 ก.พ. วัดพระธรรมกายได้จัดพิธีบูชาข้าวพระ ซึ่งเป็นประเพณีที่ทำ สืบทอดต่อกันมากว่า 50 ปีแล้ว มีพระภิกษุสามเณรและประชาชนจากทุกสารทิศเดินทางมาร่วมพิธี 10,000 กว่าคน ด้วยความสงบเรียบร้อย สิ่งนี้ก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อธัมมชโยเป็นที่เคารพรัก และมุ่งมั่นสั่งสอนศิษย์ตามบุญกิริยาวัตถุ 3 ประการ คือการทำทาน รักษาศีล และการเจริญสมาธิภาวนา แม้จะมีประชาชนร่วมงานจำนวนมาก สถานที่มีจำกัด แต่ก็นั่งสมาธิกันตามทางเดินเท้าบ้าง ใต้ต้นไม้บ้าง หรือตามลานกลางแจ้งโดยกางร่มนั่งสมาธิบ้าง  

โดยพิธีบูชาข้าวพระนี้ได้จัดขึ้นที่หอฉันคุณยายอาจารย์ฯ และส่งสัญญาณพิธีกรรมไปยังประชาชนที่ร่วมพิธีอยู่ตามประตูต่างๆ ของวัด รวมถึงตลาดกลางคลองหลวงก็ได้เปิดไฟล์เสียงนำนั่งสมาธิของหลวงพ่อธัมมชโยอีกด้วย  อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายว่า ทางเจ้าหน้าที่ DSI ตำรวจ ทหาร ยังคงไม่อนุญาตให้ พระภิกษุสามเณรและประชาชน เข้ามาปฏิบัติธรรมภายในวัด ทั้งๆ ที่เป็นประเพณีอันดีงามของวัดพระธรรมกาย และไม่ได้สร้างความวุ่นวายตามที่เจ้าหน้าที่กังวลแต่ประการใด 


             3.คณะพระมหาเถระทั้งในและต่างประเทศ และบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงองค์กรพุทธนานาชาติ ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ของวัดพระธรรมกาย โดยองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 4 แห่ง ที่เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด และคณะบุคคล – องค์กรระหว่างประเทศ จำนวนกว่า 30 องค์กร เรียกร้องให้ยกเลิก มาตรา 44 



ล่าสุด ดร.นาเดีย ทาซี ที่เคยร่วมกันทำงานกับวัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย เรื่อง "The Mes Aynak Buddhist site in Afghanistan"  อนุรักษ์พุทธโบราณสถานมรดกโลก "เมส อาแน็ค" หยุดยั้งการระเบิดเพื่อไปทำเหมืองแร่ในอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2557 ได้ทราบข่าววัดพระธรรมกาย ด้วยความห่วงใย  เธอก็พยายามช่วยแจ้งข่าวให้สื่อนานาชาติทราบ แม้ยังไม่คืบหน้า แต่เธอก็จะไม่ล้มเลิกความตั้งใจดี และส่งความห่วงใยมาถึงพระอาจารย์สนิทวงศ์ และพวกเราที่เมืองไทยทุกคน

 อีกทั้งขอขอบคุณ กรรมการสิทธิมนุษยชน ที่ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใย ต่อเหตุการณ์ของวัดพระธรรมกาย ขอยืนยันว่า คณะศิษย์ได้ใช้สติและอยู่ในความสงบ และไม่กระทำการที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมทั้งเฝ้าระวัง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ

              4. สุดท้ายขอเชิญชวน เจ้าหน้าที่ DSI ทหารและตำรวจ ร่วมกิจกรรมบุญด้วยการสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อันเป็นแม่บท (หัวใจ) ของพระพุทธศาสนา 1 จบ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น โดยสามารถส่งยอดสวดได้ที่ ผู้ประสานงานด่านที่ท่านประจำอยู่ หรือ โทร.02 – 831 - 1000 ก็ขอเชิญชวนพี่ๆ DSI ตำรวจ ทหาร ที่มาปฏิบัติหน้าที่ได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า และเกิดบุญกุศลทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ


พุทธศาสนสุภาษิต
กิจโฉ มนุสสะปฏิลาโภ           
การเกิดเป็นมนุษย์  นั้น แสนยาก

กิจฉัง มัจจานะ ชีวิตัง              
การดำรงชีวิตอยู่ของสัตว์ทั้งหลาย นั้น แสนยาก

กิจฉัง สัทธัมมัสสะวะนัง         
การได้ฟัง พระสัทธรรม นั้น แสนยาก

กิจโฉ พุทธานะมุปปาโท         
การบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย  นั้น แสนยาก


ดังนั้น จงมั่นสั่งสมความดี 
ด้วยการทำทาน รักษาศีล 
เจริญสมาธิภาวนา

แถลงข่าววัดพระธรรมกาย ประจำวันที่ 6 มีนาคม 2560

https://www.facebook.com/1604386316550472/videos/1785878205067948/

ตัดช็อตเด็ด 1 นาที :  ยกกองกำลังเสียงบเกือบ100ล้านบาท เพื่อให้พระธัมมชโยจ่ายค่าปรับ 500บาท 
https://www.youtube.com/watch?v=Hj1sXRWF0tk

วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560

ปลดล๊อคคดี ใครอยู่เบื้องหลังคดีหลวงพ่อธัมมชโย "ถ้าไม่ผิดแล้วจะกลัวทำไม ?

อ่านให้จบ แล้วดูคลิปให้รู้ ใครอยู่เบื้องหลังคดีทั้งหมด 
ใคร ใคร ใคร ????


https://www.facebook.com/thaimonkbavaria/videos/1119882141421798/
"ถ้าไม่ผิดแล้วกลัวทำไม???" 
ไม่ได้กลัว!!! เคยไปมาแล้ว!!! 
ไปแล้วเป็นแบบในคลิปไง!!! 
ดูหลายๆรอบนะ!!!
#ช่วยแชร์ไปให้คนที่ชอบถามแบบนี้ด้วย

ย้อนไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว...
หลวงพ่อธัมมชโยต้องถูกประนามไปทั่วประเทศว่า
"อาบัติปาราชิก" เพราะ...
ถูกกลุ่มบุคคลหนึ่ง...
ตอนนี้หัวหน้าใหญ่ไปที่ชอบๆแล้ว
(ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คือพวกอ้อน้อยโภชนา80ลดเหลือ60)
ไปแจ้งข้อกล่าวหาต่างๆ
+ปลอมพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช
เพื่อเป็น หลักฐานยืนยันต่อสังคมว่า...

หลวงพ่อธัมมชโยขโมยที่ดินของตัวเอง???
หลวงพ่อธัมมชโยขโมยเงินของตัวเอง???
หลวงพ่อธัมมชโยขโมยบ้านของตัวเอง???
ต้อง"อาบัติปาราชิก" 
ตามพระลิขิตปลอมของสมเด็จพระสังฆราช ทันที!!

จึงทำให้ผู้ใจบาป 
ขาดปัญญาพิจารณา 
ข้อเท็จจริง ล้อเลียน 
หลวงพ่อธัมมชโยต่างๆนานา 
ตัดต่อรูปล้อเลียนท่าน 
เพราะรู้ว่า
หลวงพ่อธัมมชโย
ท่านจะไม่ฟ้องร้องใครกลับ 
เพราะด้วยมหากรุณา
ของท่านที่ให้อภัยต่อสัตว์โลก
ทุกคนเสมอมา



"ธัมมี่" "สมีโย" ฯลฯ 
เป็นชื่อที่เราได้ยินจนคุ้นหูมานาน 
รวมทั้งภาพตัดต่ออันแสนเจ็บปวด
เมื่อลูกศิษย์ทุกคนได้เห็นภาพเหล่านั้น....
"เป็นขบวนการใส่ร้าย 
หวังทำลายถึงชีวิตใช่หรือไม่"???
เพราะสื่อต่างๆหวังที่จะขายข่าวเท่านั้น!!!
หลังจากคดีจบไปแล้ว

คำขอโทษที่ตัวเล็กจากสื่อต่างๆแค่ 1 วันหลังจากจบคดี
มันยุติธรรมที่โหมโรงหน้า 1 
ออกข่าวทีวีทุกช่อง ทุกวันเป็นแรมปีหรือไม่???

บาปมากหรือบุญมาก 
ที่ประชาชนแห่เชื่อตามสื่อ 
โดยไม่ได้พิจารณา 
หาข้อพิสูจน์ เท็จ-จริง 
ว่าเป็นอย่างไร???
เอหิปัสสิโกคือวิสัยของบัณทิต นักปราชญ์ 
และผู้มีปัญญาทั้งหลาย
หากใครได้ดูคลิปนี้จบแล้วทุกคนจะพบคำตอบทุกอย่าง..
นับจากนี้เป็นต้นไป











เราจะสู้ 
เราจะแฉความจริง 
พร้อมหลักฐานให้สังคมพิจารณา..

โมเมนต์น่ารัก "เณรน้อยวัดพระธรรมกาย" แจกลูกอม "พี่ทหาร" รักกันนะครับ อดทนนะครับ


   บรรยากาศในวันพระธรรมกายหลังจากถูกรัฐบาล คสช. ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตามอำนาจ ม.44  วันนี้ (อาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2560) เป็นวันที่ 18 แล้ว เป็นภาพที่เจนตาที่เราจะเห็นพี่ๆ ตำรวจและทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามประตูต่างๆ  เราก็ร้อน พี่ทหารเค้าก็คงร้อนเหมือนเรา โมเมนท์หนึ่งที่อยากนำเสนอ คือความน่ารักใสๆ ของน้องสามเณรที่ตลาดกลางคลองหลวง ตรงข้ามกับวัดพระธรรมกาย เมื่อเข้าพื้นที่วัดไม่ได้ สามเณรจึงทำแบบนี้




 #เด็กก็คือเด็ก แต่ความเป็นเด็ก ที่ทำให้เกิดโมเมนท์น่ารักๆ น่าชื่นชม นั่นคือนำลูกอมฮาร์ทบีท พร้อมข้อความขอคืนดี ที่น้องสามเณรเขียนด้วยรายมือตัวเอง


 "โยมพี่ครับ อดทนนะครับ 
ดีกันนะครับ   รักกันนะครับ 
สู้ๆ ครับ" 
ป.ล. จากเณรน้อย





ทำให้นึกถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องสังคหวัตถุ 4 หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อันประกอบด้วย ทาน  ปิยวาจา  อัตถจริยา  และ สมานัตตตา

       1.ทาน คือการให้ เราจะเห็นว่าหลักธรรมหลายข้อของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะขึ้นต้นด้วย “ทาน” เพราะเราทุกคนล้วนมีกิเลส ซึ่งกิเลสตัวแรกที่มักจะเจอคือ ความอยากได้ เมื่ออยากได้ก็เกิดความไม่อยากให้ ดังนั้น ทานจึงมักอยู่เป็นข้อเบื้องต้นในหลักธรรมต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการอยู่ร่วมกัน

    
       2. ปิยวาจา การพูดวาจาที่ไพเราะ ฟังแล้วเกิดความชื่นใจ เบิกบานใจ เช่นเราศึกษาธรรมะได้ข้อคิดดีๆ ก็นำสิ่งเหล่านี้ไปบอกคนที่เรารัก คนที่เรารู้จัก เป็นต้น สิ่งที่เราจะพูดนั้นต้องเป็นเรื่องจริง เป็นคำสุภาพ ไพเราะนิ่มนวล พูดออกไปแล้วเกิดประโยชน์ เวลาพูดก็ต้องพูดด้วยจิตที่มีเมตตา เช่นว่า ถ้าเราจะไปตักเตือนใคร เราก็เลือกคำอย่างดีไปบอกเขาไปบอกด้วยจิตที่เมตตาหวังดีต่อเขา  เช่นเดียวกัน เมื่อเขามาบอกหรือตักเตือนเรา เราก็ต้องทบทวนว่าเขาอยากบอกอะไรกับเรา และหากเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่เราต้องปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นเราก็ควรไปขอบคุณเขา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่า บุคคลที่มาแนะนำเราสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้แก่เรา เมื่อเห็นเราผิดพลาด เรียกว่า “ผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้” และสิ่งสุดท้ายที่ต้องพิจารณาในการพูดคือ ต้องเลือกเวลาในการพูด พูดให้ถูกกาลเทศะด้วย ถ้าจำเป็นต้องพูดในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น เวลาที่ผู้ฟังกำลังอารมณ์ไม่ดี หรือกำลังยุ่งนั้น เราก็ต้องเลือกคำให้ดีที่สุด

 3. อัตถจริยา คือทำตนให้เป็นประโยชน์ บางครั้งในการทำงานอาจขาดกำลังแต่ถ้าเราช่วยกันงานที่ว่ายากก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ถ้าเราร่วมมือกัน เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราเกิดรักความผูกพันของบุคคลที่อยู่ร่วมกันในสังคม

4. สมานัตตตา การวางตนให้พอดีในหน้าที่ของตนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย คือ วางตนให้เหมาะสมว่าตอนนี้เราอยู่ในฐานะอะไร เช่น พ่อก็มีหน้าที่เลี้ยงดูลูก แม่ก็มีหน้าที่ดูแลบ้านดูแลครอบครัว ลูกเองก็มีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียน และเมื่อเราทำงาน ถ้ามีใครไม่ทำตามหน้าที่แล้ว ย่อมจะเกิดปัญหาเรื่องการก้าวก่ายหน้าที่กันตามมา จนอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตขึ้นได้ อย่างนี้เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้การวางตนให้เหมาะสม จะช่วยให้ไม่ต้องระวาดระแวงในการทำหน้าที่ของตน ซึ่งจะส่งผลให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ


ในร้ายก็มีดี หวังว่าภาพดี ๆ ของสามเณรวัดพระธรรมกายนี้ จะเป็นภาพที่ให้ข้อคิดกับสังคม นำมาซึ่งความรัก และความปรองดองนะคะ




ขอบคุณภาพจากเพจคนวัดจัดเต็ม
หลักธรรมสังคหวัตถุ 4 : https://goo.gl/Vapqwh