วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ธรรมิกสูตร ภัยพิบัติ เกิดจากผู้นำไม่มีศีลธรรม

ธรรมิกสูตร ภัยพิบัติ เกิดจากผู้นำไม่มีศีลธรรม

ดูกรภิกษุทั้งหลาย..

สมัยใดพระราชา
เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
สมัยนั้น ....
แม้พวกข้าราชการ 
ก็เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม 


เมื่อพวกข้าราชการ
ไม่ตั้งอยู่ในธรรม 
สมัยนั้น...
แม้พราหมณ์และคฤหบดี 
ก็เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม


เมื่อพราหมณ์และคฤหบดี
ไม่ตั้งอยู่ในธรรม 
สมัยนั้น...
แม้ชาวนิคมและชาวชนบท 
ก็เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม


เมื่อชาวนิคมและชาวชนบท
ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
พระจันทร์ และพระอาทิตย์
ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ 


เมื่อพระจันทร์และพระอาทิตย์
หมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ 
หมู่ดาวนักษัตร
ก็ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ 


เมื่อคืนและวันหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ 
เดือนหนึ่งและกึ่งเดือน
ก็หมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ 


เมื่อเดือนหนึ่งและกึ่งเดือน
หมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ 
ฤดูและปีก็ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ


เมื่อฤดูและปีหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ 
ลมย่อมพัดไม่สม่ำเสมอ 


เมื่อลมพัดไม่สม่ำเสมอ 
ลมก็เดินผิดทางไม่สม่ำเสมอ ย่อมพัดเวียนไป 


เมื่อลมเดินผิดทางไม่สม่ำเสมอพัดเวียนไป 
เทวดาย่อมกำเริบ 


เมื่อเทวดากำเริบ
ฝนย่อมไม่ตกต้องตามฤดูกาล


เมื่อฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล 
ข้าวกล้าทั้งหลายก็สุกไม่เสมอกัน 


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
มนุษย์ผู้บริโภคข้าวที่สุกไม่เสมอกัน 
ย่อมเป็นผู้มีอายุน้อย 
มีผิวพรรณเศร้าหมอง
มีกำลังน้อย มีอาพาธมาก



ดูกรภิกษุทั้งหลาย 
สมัยใด พระราชาเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม
สมัยนั้น แม้ข้าราชการก็ย่อมเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม 


เมื่อข้าราชการตั้งอยู่ในธรรม
สมัยนั้น แม้พราหมณ์และคฤหบดีก็เป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม 


เมื่อพราหมณ์และคฤหบดีตั้งอยู่ในธรรม 
สมัยนั้น 
แม้ชาวนิคมและชาวชนบท ก็ย่อมเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม 


เมื่อชาวนิคมและชาวชนบทเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม 
พระจันทร์และพระอาทิตย์ก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ 


เมื่อพระจันทร์และพระอาทิตย์หมุนเวียนสม่ำ
เสมอกัน หมู่ดาวนักษัตรก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ 


เมื่อหมู่ดาวนักษัตรหมุนเวียนสม่ำเสมอ 
คืนและวันก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ 


เมื่อคืนและวันย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ 
เดือนหนึ่งและกึ่งเดือนก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอกัน 


เมื่อเดือนหนึ่งและกึ่งเดือนหมุนเวียนสม่ำเสมอ 
ฤดูและปีก็ย่อมหมุนเวียนไปสม่ำเสมอ 


เมื่อฤดูและปีหมุนเวียนไปสม่ำเสมอกัน 
ลมย่อมพัดสม่ำเสมอ


เมื่อลมพัดสม่ำเสมอ 
ลมย่อมพัดไปถูกทาง 


เมื่อลมพัดไปถูกทาง 
เทวดาย่อมไม่กำเริบ


เมื่อเทวดาไม่กำเริบ
ฝนย่อมตกต้องตามฤดูกาล 


เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล 
ข้าวกล้าก็สุกเสมอกัน 


ดูกรภิกษุทั้งหลาย 
มนุษย์ผู้บริโภคข้าวกล้าที่สุกเสมอกัน 
ย่อมมีอายุยืน 
มีผิวพรรณดี มีกำลัง 
และมีอาพาธน้อย ฯ


                          
เมื่อฝูงโคข้ามไปอยู่
ถ้าโคผู้นำฝูงไปคด 
โคเหล่านั้นย่อมไปคดทั้งหมด 
ในเมื่อโคผู้นำไปคด 


ในมนุษย์ก็เหมือนกัน
ผู้ใดได้รับสมมติให้เป็นผู้นำ 
ถ้าผู้นั้นประพฤติอธรรม  
ประชาชนนอกนี้
ก็จะประพฤติอธรรมเหมือนกัน 
แว่นแคว้นทั้งหมด
จะได้ประสบความทุกข์ 


ถ้าพระราชาเป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม 
เมื่อฝูงโคข้ามไปอยู่ 
ถ้าโคผู้นำฝูงไปตรง 
โคเหล่านั้นย่อมไปตรงทั้งหมด 
ในเมื่อโคผู้นำไปตรง 


ในหมู่มนุษย์ก็เหมือนกัน 
ผู้ใดได้รับสมมติให้เป็นผู้นำ 
ถ้าผู้นั้นประพฤติธรรม 
ประชาชนนอกนี้
ย่อมประพฤติธรรมเหมือนกัน 


แว่นแคว้นทั้งหมด
ย่อมได้ประสบความสุข 
ถ้าพระราชาเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม ฯ


วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

แฉธรรมกาย !!! สอนให้ทำบุญจนหมดตัวจริงหรือ .. ถือว่าสอนผิดหรือไม่ ?



วัดพระธรรมกายสอนให้ทำบุญจนหมดตัว
จริงหรือ ?????

.......................
อยู่ในกระแส ที่มีแต่คนพูดถึงว่าวัดพระธรรมกายสอนให้คนทำบุญจนหมดตัวบ้างล่ะ ปิดบัญชีทำบุญบ้างล่ะ อยากให้อ่านอีกหนึ่งความคิดนะ แล้วลองพิจารณาตัดสินเอง
.......................


ในอรรถกถา... มหาเวสสันดรชาดก 
ว่าด้วย 
พระเวสสันดรทรงบำเพ็ญทานบารมี


ได้พูดไว้ชัดถึงเรื่องการทำทานในชาติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเกิดเป็นพระเวสสันดร ที่พระองค์ทำบุญบริจาคแม้กระทั่งบุตรและภรรยา ตรงนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ท่านทำบุญ ยิ่งกว่าหมดเนื้อหมดตัวเสียอีก 

      "เพราะพระองค์ให้ความสำคัญกับการสร้างมหาทานบารมีอย่างยิ่งยวด เพื่อให้มีบุญมากพอที่จะหมดกิเลสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ซึ่งเมื่อเป็นแล้ว ก็จะได้กลับมาโปรดบุตรภรรยา และสรรพสัตว์จำนวนมากให้หมดกิเลส พ้นทุกข์ตามพระองค์ไปด้วย" 


ดังนั้น การทำบุญที่ทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพัน สละสิ่งที่สละได้ยากขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใด

อีกทั้งใครจะทำบุญน้อย ..
ทำบุญมาก ..
ทำบุญตามกำลังศรัทธา ..
เต็มกำลังศรัทธา ..
ก็ไม่มีใครผิดทั้งนั้น ..


แต่ขึ้นกับการตั้งความปรารถนาในการสร้างบารมี หรือการออกแบบชีวิตในชาติหน้าของแต่ละคนว่าจะเลือกระดับไหน อยากมีชีวิตเป็นอย่างไรก็เท่านั้นเอง... 


          เช่น... บางคนอยากรวยมาก เพราะคิดว่าเมื่อมีทรัพย์แล้วจะได้สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องการทำมาหากิน เพื่อเอาเวลามาสร้างบุญบารมีอย่างเดียว กลุ่มคนพวกนี้เขาก็จะเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการทำบุญ 
          แต่ถ้าบางคนอยากมีแค่พอมีพอกิน เขาก็ทำแค่พอประมาณหรือ
... บางคนไม่คิดว่าความรวยสำคัญ เขาก็ทำทานน้อย ซึ่งตรงนี้จะไปบังคับใครไม่ได้ แล้วแต่การวางแผน ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์เลือกไม่เหมือนกัน


ฉะนั้น.... ก่อนจะเชื่อตามข่าวที่หาว่าวัดพระธรรมกายสอนผิด ก็อยากให้เปิดพระไตรปิฎกศึกษาอย่างจริงจังกันก่อน จะได้ไม่พลาดก้าวล่วงสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนโดยไม่รู้ตัว


........................
ขอขอบคุณภาพจาก Nation photo