วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หยุดฆ่าพระภิกษุจากสมณเพศ หยุดระบบกล่าวหาต่อพระภิกษุ" (ทำไมต้องจับพระสึก ภาค 2)

ทำไมใช้กฎหมายกลั่นแกล้งฆ่าพระ ?





"ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธจริงหรือ  ?
ทำไมใช้กฎหมายกลั่นแกล้งฆ่าพระ"


           การบวชคือ การเกิดใหม่ในธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อายุพรรษาจะเริ่มนับตั้งแต่วันบวช ผู้มีอายุ 80 ปีแล้วเพิ่งบวช ก็ต้องเคารพกราบไหว้พระหนุ่มอายุ 20 ปี ที่บวชก่อนแม้เพียงวันเดียว 

           กฎหมายของไทยในปัจจุบัน มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อพระภิกษุ กล่าวคือ พระภิกษุเมื่อตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา หากพนักงานสอบสวนเห็นว่าต้องควบคุมตัวไว้ หรือศาลไม่ให้ประกันตัว ก็ต้องสึก ขาดจากความเป็นพระทันที ทั้งที่คดียังไม่ได้พิพากษา คิดเอาง่ายๆว่า "ถ้าไม่ผิดก็บวชใหม่ได้" 


           เปรียบเทียบกับคดีของคนทั่วไป หากผู้ต้องหาถูกควบคุมตัว แล้วมีกฎหมายระบุว่า ให้ประหารชีวิตก่อนเลย โดยให้เหตุผลว่า 



"ถ้าคดีพิพากษาแล้วไม่ผิด ก็ไปเกิดใหม่ได้" 


ทุกคนย่อมเห็นตรงกันว่า
เป็นกฎหมายที่อยุติธรรมอย่างยิ่ง
ทำไมต้องจับพระสึก ?




ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/351246


เคยมีพระภิกษุที่ถูกจับสึกเพราะพนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัวหลายราย อาทิ เจ้าคุณอุดม วัดเทพศิรินทร์ ในคดีเครื่องราชฯ เป็นข่าวครึกโครม แต่สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาว่าท่านไม่มีความผิด ใครจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และท่านก็ต้องตายไปด้วยความช้ำใจต่อความอยุติธรรมที่ตนได้รับ



ขอถามว่าใครรับผิดชอบกับ 

การจับพระสึกก่อน ไต่สวนที่หลัง
ทำไมต้องจับพระสึก ?


ยิ่งกฎหมายเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา คือเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาไปก่อน แล้วให้จำเลยไปแก้คดีที่ศาล ยิ่งอันตรายมาก เพราะพระภิกษุสามารถถูกแกล้งจับสึกได้ตลอดเวลา



เพราะพระภิกษุสามารถถูกแกล้ง
จับสึกได้ตลอดเวลา


ดังตัวอย่างวัดพระธรรมกายถูกแจ้งความดำเนินคดีถึง 300 กว่าคดีในเวลาเพียงหนึ่งเดือน และมีนโยบายว่า ทุกคดีให้ส่งศาลขอฝากขัง คัดค้านการประกันตัว พระก็ต้องเสี่ยงกับการถูกจับสึก ตั้งแต่ศาลยังไม่พิพากษาหลายร้อยครั้ง พลาดแม้เพียงครั้งเดียว ก็ต้องตายไปจากความเป็นพระทันที





ถึงเวลาแล้วหรือยัง ???
ที่จะต้องยกเลิกกฎหมายมักง่าย เป็นเครื่องทำลายพระพุทธศาสนา ฆ่าพระภิกษุจากพระธรรมวินัย ???? 


อิสลามยังเรียกร้องให้ออกกฏหมายชารีอะห์ สำหรับชาวอิสลาม
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยกเลิกกฎหมายมักง่าย เป็นเครื่องทำลายพระพุทธศาสนา ฆ่าพระภิกษุจากพระธรรมวินัย ดังนี้

1. ห้ามสึกพระโดยที่คดียังไม่ได้พิพากษาจนถึงที่สุด

2. ห้ามใช้ระบบกล่าวหากับพระภิกษุ

3. คดีของพระภิกษุ ให้ตั้งศาลสงฆ์ มีคณะพิจารณาไต่สวน
เฉพาะ มีผู้แทนคณะสงฆ์เข้าร่วมพิจารณาด้วย โดยยึดหลักพระวินัยร่วมกับกฎหมายทางโลก ถ้าหลักฐานไม่พอก็จบกันไป ถ้าหลักฐานพอก็ดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม

4. การพิจารณาให้ไต่สวนทำในวัดที่เหมาะสม ไม่เสียสมณสารูป

5. คดีใหญ่ที่เป็นที่สนใจ ให้เชิญองค์กรพุทธทั่วโลกร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพราะพระภิกษุทั้งโลกก็ใช้พระวินัยของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน




"หยุดฆ่าพระภิกษุจากสมณเพศ 
หยุดระบบกล่าวหาต่อพระภิกษุ"


เรียบเรียงใหม่ ichico

คนดัง นั่งนิ่งไม่ไหวล้าวววววว จี้ตำรวจตอบคำถาม 3 ข้อ ทำไมต้องจับพระสึก ?? (ทำไมต้องจับพระสึก ภาค 1)

(ทำไมต้องจับพระสึก ภาค 1)


นายพิสิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสข้อความทางเฟสบุค จี้ตำรวจตอบคำถาม 3 ข้อ 


1 ยุทธวิธีตำรวจถูกต้องหรือไม่ ? ทำไมต้องจับพระสึก ?
2 ทำไมไม่ให้ประกันตัวตามพรบ.คณะสงฆ์ มาตรา 29 ? 
3 กล้าใช้ "ยุทธวิธี" แบบนี้กับนักบวชศาสนาอื่นหรือไม่ ? 





        จากข่าว พูดถึง การให้พระภิกษุสละสมณเพศกับ "ยุทธวิธีของตำรวจ"  ระบุว่า เวลาพระภิกษุต้องคดี หากพระภิกษุไม่ได้ประกันตัว ต้องให้พระภิกษุสละสมณเพศ หรือจับพระสึกเสียก่อน กล่าวคือ จะนำพระภิกษุไปขังในขณะครองผ้ากาสาวพัสตร์ไม่ได้ เพราะผ้ากาสาวพัสตร์ถือว่าเป็นของสูง 

        ปัญหาว่า มีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องจับพระสึก ก็ต้องตอบว่าอยู่ที่ "ดุลพินิจ" ของตำรวจ หากตำรวจต้องการให้สึก ตำรวจก็จะไม่ให้ประกันตัว แต่หากไม่ต้องการให้สึก ตำรวจก็ต้องขอให้เจ้าอาวาสที่พระภิกษะนั้นสังกัดอยู่รับตัวพระภิกษุนั้นไปควบคุมไว้ พระภิกษุนั้นก็ไม่ต้องสละสมณเพศ หรือไม่ต้องสึก (พรบ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา29) 

        กรณีที่เกิดขึ้นกับพระภิกษุที่เป็นข่าวใหญ่โตขณะนี้ จึงสรุปได้ว่าเป็น "ดุลพินิจ" ของตำรวจที่จะจับสึก ผมก็ไม่ว่าอะไรล่ะครับ ตำรวจไทยมี "ดุลพินิจ" ที่ถูกต้องสวยงามเป็นที่ยอมรับของประชาชนเสมอ 


         เพียงแต่พระภิกษุบางรูปท่านบวชมาตั้งแต่อายุ  20 ปี ตั้งใจจะมรณภาพภายใต้ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ และตอนนี้ท่านก็อายุมากแล้ว กว่าจะต่อสู้คดีเสร็จก็ใช้เวลานับ 10 ปี ถึงตอนนั้น หากศาลตัดสินให้ท่านชนะคดี เวลาที่จะครองผ้ากาสาวพัสตร์ใหม่น่าจะสายไปแล้ว

       
         "เรื่องที่ละเอียดอ่อนและกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจควรจะลงมาดูการใช้ดุลยพินิจของผู้ใต้บังคับบัญชาผบ.ตร บอกว่า การจับกระทำถูกต้องตาม "ยุทธวิธี" แล้ว แต่ต่อมานายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีออกมาขอโทษประชาชนในการกระทำที่รุนแรงเกินไป ตกลงจะเอาไง ? 



ผมว่าตำรวจต้องตอบชาวพุทธ 3 เรื่อง 

           1  ยังยืนยันยุทธวิธีของท่านว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ 
           2  ทำไมต้อง "จับสึก" ทำไมไม่ให้ประกันตัวตามพรบ.คณะสงฆ์ มาตรา 29
           3 ขอถาม (เบาๆ ) ว่า ถ้าเป็นนักบวชตามศาสนาอื่น ท่านจะใช้ยุทธวิธีแบบนี้ด้วยหรือไม่ หรือ ท่านกล้าใช้ "ยุทธวิธี" แบบนี้เฉพาะกับพระในพระพุทธศาสนา"

ขอบคุณที่มาข่าว มติชนออนไลน์  วันที่ 27 พฤษภาคม 2561