วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ถามมา-ตอบไป (ควายเผือก ปากหมา)


คำถามจากควายเผือก ปากหมา
https://goo.gl/8kBF9H‎  



คำถามจาก ควายเผือก ปากหมา 
            ถึงผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะคุณองอาจและเหล่าศิษย์ของวัดพระธรรมกาย กรุณาออกมาตอบคำถามเป็นข้อๆเพื่อไขข้อข้องใจที 
และมีลูกศิษย์ Sutthijit Gerddee ของวัดท่านหนึ่งได้มาตอบให้กระจ่างดังนี้ 

           1.ตอบให้ได้ก่อนเถอะว่าธรรมกายนี่เป็นศาสนาอะไร ยึดถือคำสอนจากไหน ?

 คำตอบ 
          เป็นศาสนาพุทธ ยึดคำสอนจากพระไตรปิฎกเถรวาท ซึ่งชาวพุทธควรที่จะอ่านและศึกษาดูบ้างแล้วจะทราบเองว่า สอนผิดหรือไม่อย่างไรนะครับ อย่าเอาแค่ที่คุ้น




อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : วัดพระธรรมกายเป็นเถรวาทหรือมหายานกันแน่!!!  
https://goo.gl/bSM471

---------------------------------------------

      2.คำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยบอกหรือว่าการบริจาคทำบุญด้วยปัจจัยมากๆแล้วจะได้บุญเยอะ หรือแม้แต่การออกธุดงค์นั้นเดินกันตรงไหนอย่างไร ?

 คำตอบ 
            คำสอนของพระพุทธเจ้ามีบอกไว้ในพระไตรปิฎกถึงอานิสงส์ของการถวายทานว่า ทำแบบไหนได้อะไร มีรายละเอียดอยู่มากมาย ซึ่งวัดพระธรรมกายสอนตามนั้น ยกเว้นคุณจะไปอ่านตามที่เขาใส่ความว่า “วัดพระธรรมกาย สอนว่าทำบุญเยอะแล้วได้บุญเยอะ” ซึ่งไม่เคยสอนอะไรแบบนั้น ส่วนการเดินธุดงค์นั้นจุดประสงค์คือเดินไปเพื่อบำเพ็ญตบะ ไม่ได้บอกว่าต้องเน้นให้เดินไปในป่า (อย่างที่คุณพยายามจะชี้นำ) บางทีเดินเข้าไปในเมืองได้บำเพ็ญตบะมากกว่าซะด้วยซ้ำ อีกอย่างก็ได้ให้คนในเมืองได้เห็นพระจำนวนมากๆ ซึ่งน่าอนุโมทนาด้วย


อ่านเพิ่มเติมได้ที่  ยิ่งสืบยิ่งค้นพบว่าหลวงพ่อธัมมชโยสอนตรงตามพระไตรปิฎกทุกอย่าง 
https://goo.gl/UZw2gc

 “วัดสอนเรื่องบริจาคมากได้บุญมาก เป็นการสอนสวนทางกับพระไตรปิฎก” 
https://goo.gl/3vBAFg

หนังสือแก่นเดิมของพุทธปรัชญา...อ่านต่อ..
https://goo.gl/t8voRy


---------------------------------------------


             3.วัดเป็นสถานที่ส่วนบุคคลหรือที่สาธารณะ ?

 คำตอบ 
            วัดไม่ใช่ที่สาธารณะตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535  
ซึ่งวัดและบริเวณของวัดมีกฎหมายเฉพาะมาควบคุมดูแลซึ่งได้แก่พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้วัดเป็นนิติบุคคล  
            และมาตรา 33 แห่งพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติมบัญญัติว่า  ที่วัด และที่ซึ่งขึ้นต่อวัดมีดังนี้คือ  

            (1) ที่วัด คือ ที่ซึ่งตั้งวัดตลอดจนเขตของวัดนั้น  
            (2) ที่ธรณีสงฆ์ คือที่ซึ่งเป็นสมบัติของวัด  
            (3) ที่กัลปนา คือที่ซึ่งมีผู้อุทิศแต่ผลประโยชน์ให้วัดหรือพระศาสนา  

            ดังนั้น วัด และอาณาบริเวณของวัด ซึ่งมิใช่เป็นที่ของเอกชน จึงไม่เข้าข่ายเป็นที่สาธารณะตามกฎหมายเฉพาะ




อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 
https://goo.gl/nlRVR5

---------------------------------------------

             4.เป็นพระแล้วอยู่เหนือกฏหมาย หรืออย่างไร ?

 คำตอบ 
            เป็นพระอยู่ภายใต้พระธรรมวินัย พรบ คณะสงฆ์ และกฎหมายบ้านเมือง แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีของวัดพระธรรมกายก็อยากจะให้เคารพกฎหมายเหล่านี้ด้วยเช่นกัน อีกอย่างขอให้ไปช่วยศึกษาเพิ่มเติมด้วย รายละเอียดมีเยอะ





อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 
"พระธัมมชโยไม่ใช่ผู้วิเศษ!!!"ต๊อกอึ้ง!!!เมื่อได้ยินคำทายแบบนี้ (หลวงปู่ละมัย)
https://goo.gl/QUBmuA


 ---------------------------------------------

             5.ถ้าไม่ผิดทำไมถึงไม่กล้าพิสูจน์ความจริง กรุณาช่วยๆมาตอบด้วย 

 คำตอบ 
            ไม่ใช่ไม่กล้าพิสูจน์ความจริง หากคุณได้ติดตามข่าวแบบเจาะจะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ไม่พยายามจะให้เข้าสู่กระบวนการในตอนต้น โดยหวังอะไรบางอย่าง เท่าที่เห็นชัดๆ คือการออกหมาย ทางวัดได้ขอร้องให้มาแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดแต่แรก ก็ไม่รับการตอบสนอง อีกอย่างหลวงพ่อท่านเองก็เป็นแค่ผู้รับบริจาค เรื่องการเงินมีคนรับผิดชอบ หากเคยเข้ามาทำบุญที่นี่จะทราบและลูกศิษย์ทุกท่านทราบดีตรงนี้ 

            ก็อยากจะขอร้องนิดนึงนะครับว่า (ขอยืมคำอาจารย์เฉลิมชัยนะครับ) “จะด่าใคร study สักนิดก็จะดี” นะครับ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา ว่าด้วยหลักเหตุและผล และพระพุทธองค์ให้คิดพูดทำกับพระด้วยจิตเมตตา ขอบคุณครับ 

ขอแถมนิดจาก .....
หลักวินิจฉัยว่าใครคือพุทธเถรวาท  
โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑโฒ) 
หัวใจของพระพุทธศาสนาคือพระรัตนตรัย 

     หลักวินิจฉัยว่าใครคือพุทธเถรวาทหรือไม่อยู่ที่ 
           1.เขาเคารพบูชาพระพุทธเจ้าหรือไม่ 
           2.เขาเคารพบูชาพระธรรมยอมรับคำสอนในพระไตรปิฎกหรือไม่ 
           3.เขาเคารพพระสงฆ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบหรือไม่ 



ถ้าเขายึดถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด 
เขาก็คือพุทธเถรวาท 

แม้จะเคารพเจ้าพ่อ เจ้าแม่ อื่นๆบ้างก็ตาม 
อ่านเพิ่มเติม บทความโดย : 
พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ 
(สมชาย ฐานวุฑโฒ) 
https://goo.gl/kn8DUc

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

จากลิเบียถึงไทย โศกนาฏกรรม...เหตุจากลิงตัวเดียว

    

       
หลายวันก่อน อ่านข่าวต่างประเทศ 

เหตุจากลิงตัวเดียว ทำให้คนตายอย่างน้อย 20 บาดเจ็บร่วม 100 คน 

เหตุเกิดที่ ประเทศลิเบีย ลิง ตัวหนึ่ง กระโจนใส่กลุ่มนักเรียนหญิงที่เดินผ่าน ทั้งกัดข่วน และกระชากผ้าคลุมศีรษะนักเรียนหญิงคนหนึ่ง สร้างความโกรธแค้นให้ผู้ปกครองของเด็กหญิง และนำพวกมาฆ่าลิง และเจ้าของและครอบครัว 3 คน ทำให้เกิดเหตุบานปลาย กลายเป็นความแค้นระหว่างชนชาติ 

เจ้าของร้านผู้เป็นเจ้าของลิง มาจากชนเผ่ากัดดัดฟาห์ (Gaddadfa) เผ่าเดียวกับนาย โมอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการของลิเบีย ส่วนนักเรียนหญิงที่ถูกลิงทำร้ายมาจากเผ่า ออว์ลัด สุไลมาน (Awlad Suleiman) โดยเผ่าชาวอาหรับทั้งสองต่อสู้แย่งชิงอำนาจการควบคุมชายแดนมานาน นับตั้งแต่กัดดาฟีถูกสังหารในการปฏิวัติ ปี 2011
          
เหตุขัดแย้ง ทำให้การปะทะของ 2 เผ่าใช้ความรุนแรง มีทั้งรถถัง ปืนใหญ่ จรวด 


...........................................


          อ่านแล้วคิดถึงเมืองไทย ช่วงนี้เรากำลังอยู่ในช่วงไว้อาลัยของในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่น่าแปลกใจที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกลับไม่เคารพไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ พยายามก่อให้เกิดความวุ่นวาย โดยกดดัน หน่วยงานรัฐด้านยุติธรรมให้ออกผลมาในสิ่งที่ตนต้องการ ถึงขั้นประกาศจะก่อม็อบเดินขบวน 

รมต.บางท่าน รองผบตร.บางท่าน และอธิบดีกรมบางกรม ถึงขั้นประกาศจะยกกองกำลังมาเพื่อจับพระภิกษุเฒ่าซึ่งป่วยเจ็บอยู่ในวัดเป็นเวลานาน เหมือนเป็นผู้ก่อการร้ายขั้นสูงสุด 




น่าแปลกใจที่ขบวนการนี้มีการดำเนินการสอดรับกับสื่อมวลชน ออกข่าวเท็จมาเพื่อปั่นกระแสสังคม จนน่าตั้งเป็นข้อสังเกตว่า จุดประสงค์จริงๆต้องการอะไรกันแน่ หรือว่ามีความต้องการแฝงเพื่อขัดขวางงานมงคลของชาติหรือเปล่า หรือว่าตั้งใจขัดขวางงานถวายพระราชกุศลปัญญาสมวาร (ทำบุญ ๕๐ วัน) ที่ใกล้จะถึงนี้







น้ำผึ้งหยดเดียว....

ลิงตัวเดียว ...สามารถก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศลิเบียได้ ฉันใด 

ขอร้องเถิด อย่าดูถูก หรือประมาทความรักความเคารพในพระเทพญาณมหามุนี ของลูกศิษย์ลุกหานับแสนนับล้านทั่วโลก แม้ทุกคนจะยึดมั่นคำสั่งสอนของท่านที่ให้ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป 

แต่ไม่ว่าอย่างไรด้วยจำนวนคนขนาดนี้ สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อย่าลืมคนวัดพระธรรมกายไม่ได้มีเฉพาะคนอายุมากสูงวัย 







จำภาพวันกฐินได้หรือไม่ ภาพของเด็กตัวเล็กตัวน้อยที่เดินแถวถือผ้าไตรมาร่วมพิธี เด็กเหล่านี้จะเติบโตขึ้นเป็นกำลังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิดปกติกับพระพุทธศาสนาให้สูญสลายไป 

ขอยกคำพูดของ โจชัว หว่อง  เลขาธิการและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเดโมซิสโต ของฮ่องกง ผุ้ก่อเกิดกระแส "ร่มเหลือง" ในฮ่องกง 

           “วัยเยาว์ของคนหนุ่มสาวทำให้เวลาอยู่ข้างพวกเรา ทุกวันนี้พวกคุณกำลังครอบงำอนาคตของเราอยู่ แต่วันหนึ่งข้างหน้าเราจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของพวกคุณได้ในที่สุด”


โจชัว หว่อง
เลขาธิการและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเดโมซิสโต ของฮ่องกง

แน่นอนที่สุดว่า...
ไม่ได้อยู่กับพวกแก็งชั่ว
กำลังตั้งใจทำร้ายทำลายพระพุทธศาสนา
และคณะสงฆ์ทั้งหมดอยู่ขณะนี้แน่นอน 

เพราะกรรมที่ทำกับพระ
ที่ท่านไม่ได้ประทุษร้ายตอบ
มีผลมากกว่าที่คาดคิดไว้เยอะ...



#ความดีชนะทุกสิ่ง ความจริงชนะทุกอย่าง                           


  Cr. ธรรน์


..............................
อ่านข่าวต่อได้ที่:
http://edition.cnn.com/2016/11/21/africa/libya-monkey-tribes-deadly-clash-trnd/

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_109070

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000116520

http://www.thairath.co.th/content/789792

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_109070

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

วัดพระธรรมกายอยู่เหนือความรวย !?

วัดพระธรรมกาย
อยู่เหนือความรวย ความจน ⁉️

อะไรที่เรียกว่าความรวย ???
อะไรที่เรียกว่าความจน ???


        ได้อ่านบทความนี้ จากห้องไลน์หนึ่ง ซึ่งญาติโยมกลุ่มนี้มั่นในในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย เป็นบทความที่ถ่ายทอดทัศนคติวัดรวยวัดจน 

         ใครที่อยากรู้ว่าวัดพระธรรมกายมีข่าวฉาวรายวันขนาดนี้ ทำไมยังมีคนศรัทธา !! หรืองมงาย !! มาวัดมากและยิ่งมากขึ้นสวนกระแสข่าว ทำไม ทำไม ทำไม !?

          ลองเปิดใจ ค่อยๆ อ่านในสิ่งที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านสอนลูกๆ ขอใช้คำว่าลูก ๆ นะ เพราะเวลาที่ท่านสอนจะถ่ายทอดความเมตาออกมาด้วยทุกครั้ง

..........................................


          หลวงพ่อไม่เคยเบื่อหน่ายเพศสมณะเลย แม้แต่เพียงวันเดียวตั้งแต่บวชวันแรก เผลอประเดี๋ยวเดียว ๓๐ กว่าพรรษาแล้ว เป็นพระนี่อยู่เหนือความรวยความจนนะ พระไม่ได้คิดเรื่องรวยและก็ไม่ได้คิดเรื่องจน มันเหนือตรงนั้นไปแล้ว วัดก็เหมือนกันอยู่เหนือคำว่า วัดรวย หรือ วัดจน 
      
          " วัด" เป็นเครื่องวัดของคนเข้าวัดว่า กิเลสหรือสิ่งไม่ดีนั้นหมดไปแค่ไหน ยังเหลืออีกแค่ไหน และก็เป็นสถานที่ตักตวงบุญ เป็นแหล่งเนื้อนาบุญ เป็นแหล่งแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะทำให้เราดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด มีสุคติเป็นที่ไป มีเป้าหมายคือนิพพาน เราจะมองที่ถาวรวัตถุ หรือจำนวนคนเข้าวัดว่า วัดนี้รวย วัดนี้จน ไม่ถูกนะ  
      
           วัดหลวงปู่หลวงตาในหลายๆ วัดที่ต่างจังหวัด ท่านมีแค่กุฏิหลังเล็ก ๆ มีทางจงกรม มีที่พักกลางวัน มีศาลาเอนกประสงค์ ที่ท่านทำอย่างนั้นเพราะท่านมีวัตถุประสงค์ที่จะปลีกวิเวก เพื่อให้กายสงัด ใจจะได้สงัด กิเลสมันจะได้หมดไป นั่นวัตถุประสงค์ของท่าน ไม่ใช่ท่านจนนะ ถ้าท่านจะสร้างให้ใหญ่โตท่านก็ทำได้ แต่ท่านไม่ได้มีวัตถุประสงค์อย่างนั้น ใครมีบุญอยากได้บุญก็มาฟังธรรม ไม่มีใครมาท่านก็ปฏิบัติธรรมทำความเพียรของท่านไป มันแล้วแต่วัตถุประสงค์ 
      
           อย่างวัดใหญ่ๆหลายๆวัดโดยเฉพาะวัดพระธรรมกายที่สร้างก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาไว้เป็นสถานที่ประพฤติธรรมให้สาธุชนผู้มีบุญทั้งหลายที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างไกลนัก รถวิ่งสักชั่วโมง ชั่วโมงครึ่ง ได้มาปฏิบัติธรรมรวมกัน เป็นพลังหมู่ในการปฏิบัติธรรมในการศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

           เพราะฉะนั้นจะให้ไปตากแดด ตากลม ตากฝน ก็ทำไม่ได้ เมื่อคนมาเยอะก็ต้องสร้างใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวกับรวยหรือจนเลย เพราะว่าวัด หลวงพ่อเอาไปขายไม่ได้ แล้วไม่เคยคิดจะไปขาย เลิกคิดค้าขายหรือทำมาหากินตั้งแต่บวชแล้ว บวชแล้วก็เลิก 
      



            หรือมหาธรรมกายเจดีย์ที่สร้างนี่ก็เป็นที่รวมใจให้คนนึกถึงบุญ นึกถึงพระรัตนตรัย ใจจะได้เป็นกุศล เมื่อใจเป็นกุศล เลื่อมใสในพระรัตนตรัย จะได้เป็นรหัสผ่านไปสุคติภพ วัตถุประสงค์เป็นอย่างนี้จึงสร้างให้มันใหญ่ ก็แค่นั้นเอง 
      
            เพราะฉะนั้นวัดอยู่เหนือความรวยหรือความจน ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ส่วนเมื่อเข้าใจแล้วจะไปทำบุญที่ตรงไหน มีศรัทธาตรงไหนก็ทำตรงนั้น ศรัทธาอยากสร้างโรงเรียนก็สร้างโรงเรียน ศรัทธาอยากสร้างโรงพยาบาลก็สร้างโรงพยาบาล หรือสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ซึ่งรักษาไข้ทางกาย และให้วิทยาทานพอแล้ว เราจะมาสร้างโรงพยาบาลรักษาไข้ทางใจ หรือมาสร้างโรงเรียนเป็นที่ศึกษาเรื่องความจริงของชีวิตก็มาสร้างวัด ก็แล้วแต่เรา 
      
            แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เรียงขั้นตอนของบุญที่จะได้มากมาตามลำดับ ตั้งแต่ ให้อาหารกับสัตว์เดรัจฉาน กับมนุษย์ทุศีล มนุษย์มีศีล มนุษย์เข้าถึงธรรม ถึงฌานสมาบัติ เป็นโคตรภูบุคคล เป็นพระอริยะบุคคล เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ไล่เรื่อยไปถึงสร้างถาวรวัตถุ เรียงลำดับปริมาณของบุญที่จะได้มากกว่ากัน พระองค์ก็บอกเอาไว้แล้วที่มีอยู่ในตำรับตำรา เมื่อเราทราบอย่างนี้แล้วเราก็เลือกเอา แล้วแต่ใจของเราจะไขว่คว้าเอา 
      
            เพราะฉะนั้นวัดอยู่เหนือความรวยความจน ดังนั้นถ้าใครยังคิดว่าวัดนั้นรวย วัดนั้นจนล่ะก็เลิกคิดได้แล้ว เดี๋ยวนี้เขาอยู่ในยุคคิดใหม่ คิดผิดคิดใหม่ได้ แต่คิดใหม่อย่าให้มันผิด คิดให้ถูกนะจ๊ะ ให้คิดตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์สอนให้คิดนั่นแหละ 

วันจันทร์ที่ ๖ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ 
( เล่มที่ ๑๓ หน้า ๒ - ๓)
-----------------
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา 
พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สงสัยมั้ย....ทำไมต้องโกรธกัน ?


            ทุกวันนี้ สังคมไทยเรา รู้สึกว่าจะเต็มไปด้วยการใช้อารมณ์เข้าหากัน เรื่องเล็กๆน้อยๆ บางที ก็เอามาเป็นอารมณ์อย่างรุนแรง จนกลายมาเป็นความขุ่นเคือง และโกรธแค้นกัน จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนเหมือนกับว่าสังคมและคนรอบๆตัวเรา เริ่มจะหาความสุขสงบได้ยากขึ้นทุกที


ระดับของความโกรธ
               คนที่เขาไม่ชอบเรา ก็มักหาวิธีกลั่นแกล้งเราสารพัด โดยเฉพาะหาเรื่องให้เราโกรธ ให้เราเสียหน้า ซึ่งถ้าเราโกรธก็เท่ากับหลงกลเขา ถือว่าเรานั่นโง่เขลาที่สุด



  โทษของความโกรธ  

             คนโกรธมีผิวพรรณทราม  ย่อมนอนเป็นทุกข์  ถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้วกลับปฏิบัติสิ่งอันไม่เป็นประโยชน์  ทำปาณาติบาตด้วยกายและวาจา  ย่อมถึงความเสื่อมทรัพย์ ผู้มัวเมาเพราะความโกรธย่อมถึงความไม่มียศ ญาติมิตรและสหาย ย่อมเว้นคนโกรธเสียห่างไกล คนผู้โกรธย่อมไม่รู้จักความเจริญ ทำจิตให้กำเริบภัยที่เกิดมาจากภายในนั่น คนผู้โกรธย่อมไม่รู้สึก คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ ไม่เห็นธรรมความโกรธย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น คนผู้โกรธย่อมก่อกรรมที่ทำได้ยากเหมือนทำได้ง่าย ภายหลังเมื่อหายโกรธแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ คนผู้โกรธย่อมแสดงความเก้อยากก่อน เหมือนไฟแสดงควันก่อน ในกาลใด ความโกรธเกิดขึ้น คนย่อมโกรธในกาลนั้น คนนั้นไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ และไม่มีความเคารพ คนที่ถูกความโกรธครอบงำย่อมไม่มีความสว่างแม้แต่น้อยเลย


พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย 
สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต 
เล่ม ๔ - หน้าที่ 206




โทษของความโกรธ แสดงธรรม โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี 
พระครูเกษมธรรมทัต วัดมเหยงคณ์


  "รู้อย่างนี้แล้ว ....จะโกรธ กันไปทำไม ... 
 เพื่อทำร้ายตัวเราเองรึ"  

...............................
ขอบคุณภาพ เนื้อหาบางส่วนจาก
FB : OhLifeStory
web youtube.com
http://www.dhammahome.com/webboard/topic/15092

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

วิฑูรย์ ชลายนนาวิน ชื่อนี้สำคัญไฉน !!??

วิฑูรย์  ชลายนนาวิน ชื่อนี้สำคัญไฉน 


    นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน คือผู้เชี่ยวชาญอ่านแผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของศาล คนที่ร่วมกันทำงานกับนายตำรวจผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง คนที่มาชี้แผนที่ตรวจสอบ การบุกรุกป่าของวัดพระธรรมกาย !!!





           ศูนย์ปฏิบัติธรรม "เวิลด์พีซ วัลเล่ย์ เขาใหญ่" รุกพื้นที่ป่าสงวน  ก็เป็นฝีมือของ นายวิฑูรย์  ชลายนนาวิน เช่นเดียวกัน




 เปิดประวัตินายวิฑูรย์  ชลายนนาวิน 

          ประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์แผนที่ทางอากาศทั้งหมด 5 คน นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน เป็น 1 ในนั้น ถือเป็นผู้มีความสามารถสูง  และเป็นข้าราชการระดับรองอธิบดีป่าไม้ ว่ากันว่า ข้าราชการ ถ้าไม่เลวร้ายจริงๆ ก็ไม่โดนไล่ออก แต่เนื่องจากความผิดนั้นร้ายแรงมากถึงขั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มีคำสั่งไล่ออกด้วยเหตุผล..

          1. ทำให้ราชการเสียประโยชน์จากการแปลภาพถ่ายทางอากาศบริเวณอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ให้เอกชนนำไปออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เป็นความผิดตามมาตรา 85 (1) 

          2. มีหน้าที่ราชการ แต่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบของทางราชการจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ มาตรา 85 (4) 

          3. กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง 83 (1)

          4. การรายงานโดยปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้งถือว่าเป็นการรายงานเท็จด้วย มาตรา 83 (3) 

          5. ต้องไม่อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่น เป็นต้น... 
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/359023    




            หมอไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ยังรักษาคนไข้ไม่ได้ แล้วผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์แผนที่ทางอากาศไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 
ตำรวจเอามาใช้งาน ให้เซ็นรับรองว่าที่ดินของวัดพระธรรมกายบุกรุกป่าเพื่ออะไร ??

แต่ผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์แผนที่ทางอากาศของศาลตัวจริง ตรวจสอบแล้วพบว่า 

            ไม่มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างทับลำรางสาธารณะ
            แผนที่ทางทหารปี 2518 พื้นที่ตรงนั้นไม่ใช่ป่า แต่เป็นที่ทำกินหมดแล้ว จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก แผ้วทางป่า






              แล้วคนที่ทุจริตในหน้าที่ขั้นร้ายแรง ....
โดนไล่ออกจากราชการมาหลายปี ....
ศาลไม่ต่ออายุให้เป็นผู้เชี่ยวชาญฯ ของศาล....


ยังเชื่อถือได้หรือ ?????

ทำไมรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 
ถึงเอามาใช้งานได้ 
งงจริงๆ

............................................

อ้างอิง
#จูลาสสิคสยาม 
http://jurassicsiam.blogspot.jp/2016_08_01_archive.html

จาก เวปของเดลินิวส์

จากเวปของ มติชน

จากเวปของนักกฏหมายท่านหนึ่ง

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พิเศษ !! รวม blog ชี้แจงกรณีธรรมกาย โดยศ.(พิเศษ)จำนงค์ ทองประเสริฐ



ชัดไหม ศ.(พิเศษ) จำนงค์ ทองประเสริฐ? ราชบัณฑิตชี้กรณีธรรมกาย ไม่เข้าข่ายรับของโจร : กรณีธรรมกาย
http://talk--secret.blogspot.com/2016/07/blog-post.html

ศ. (พิเศษ) จำนงค์  ทองประเสริฐ.....กล่าวไว้ว่า "ธรรมกายที่ถูกเพ่งเล็งมากเพราะ
ไม่มีที่ไหนทำได้เหมือนกับธรรมกาย" 
พร้อมเทปสัมภาษณ์ !!! 
http://bethehistory.blogspot.jp/2016/11/blog-post_8.html

ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ พูดถึงวัดพระธรรมกาย (0.26 นาที)
https://youtu.be/UMAbn6vhTxw

ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต พูดถึงหลวงพ่อธัมมชโย (กรณีรับของโจร) (2.26 นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=Tsu-aqinz6g

#ธรรมกาย
#ธัมมชโย 
#กรณีธรรมกาย
#เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รู้แล้วความจริง !!! ไพบูลย์รู้จาก..วงในว่าอัยการเชื่อหลวงพ่อไม่ผิด เลยออกมาชี้นำเพื่อดักทาง



...ยิ่งกว่ามารผจญ..เขาเรียกว่าอาฆาตจองเวร..

...หลังจากที่ข่าวรองอธิบดี ดีเอสไอ..ที่ดูแลคดีหลวงพ่อธัมมชโยถูกย้ายข้ามห้วย..

วันนี้สื่อระดับหาคนอ่านยาก สุ่มหัวกับคนไร้ค่า 
ออกมาตีปลาหน้าไซร์..แทงกั๊กไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด แบบชี้นำยิ่งกว่าเจ้านายกับบ่าว..ว่า...

7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 นี้ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษคนใหม่ที่รับตำแหน่งเดือนตุลาคมนี้ น่าจะฟ้องหลวงพ่อธัมมชโยแน่นอน

ไพบูลย์ นิติตะวัน..เป็นใครถึงกล้ามาชี้นำอัยการแบบนี้

อัยการถ้าฟ้องตามคำชี้นำของนายไพบูลย์ต่อไปก็ยุบสำนักงานอัยการแล้วตั้งสำนักไพบูลย์คอยสั่งคดี..จะเข้าท่าเลย

นายไพบูลย์ออกมาชี้นำแบบนี้..ข่าววงในแจ้งว่าเพราะนายไพบูลย์รู้ว่าอัยการพิจารณาแล้วเชื่อว่าหลวงพ่อไม่ผิด ไม่สามารถฟ้องได้ เลยออกมาชี้นำเพื่อดักทาง

ทนายในฐานะนักกฏหมายเห็นว่า..นายไพบูลย์ก้าวล่วงอำนาจของอัยการแล้ว..ขนาดตำรวจ..ผู้พิพากษา.ยังไม่ก้าวล่วงอำนาจของอัยการ.ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตน...

แต่นายไพบูลย์......เป็นใคร มีอำนาจตามกฏหมายใด ถึงกล้าแถลงข่าวชี้นำอัยการแบบนี้...

ทนายเชื่อว่า 7 พฤศจิกายนนี้. คดีหลวงพ่อธัมมชโย คงเลื่อนการสั่งคดีออกไปก่อน...เพราะอาจจะต้องดูทิศทางลม...ที่อาจจะหวนกลับพัดพาเอาความเย็น..ความสงบกลับคืนสู่วัดพระธรรมกายก็เป็นได้....

ทนายนิทัศน์  ประเสริฐเนติกุล.
พฤ 3 พ.ย 59...17.12น.


Cr. ทนายนิทัศน์  ประเสริฐเนติกุล