วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

บทที่ 17 กุฏิไฟไหม้กับตอไผ่ (เขาว่าหลวงพี่เป็น...ผู้มีอิทธิพล The series)

เขาว่าหลวงพี่เป็น...ผู้มีอิทธิพล

โดยพระธาดา จรณธโร 
ประธานมูลนิธิธรรมชาติพิสุทธิ์ (องค์กรสาธารณประโยชน์)
......................................



         หลวงพี่คิดอยู่นานว่าจะนำเสนอข้อมูลดังต่อไปนี้ดีไหมและอย่างไรดี? เพราะพยายามหลีกเลี่ยงอย่างที่สุดที่จะไม่ทำให้ใครได้รับความเสียหายจากสิ่งที่หลวงพี่เขียน แต่ก็ต้องรักษาข้อแท้จริงเอาไว้ .. ก็ว่าไปตามเนื้อผ้าแล้วกันนะ ..

          .. มาอยู่ที่เขาวงพระจันทร์ไม่กี่วันพระรูปนั้นก็เริ่มมีทีท่าแปลกๆ ท่านบอกว่าชาวบ้านเริ่มสงสัยว่าหลวงพี่จะจัดบวชจริงๆหรือ ไม่เห็นก่อสร้างอะไรเลย (อ้าว.. ตอนไปชวนเรามาบอกที่กว้างกางเต๊นท์ได้เป็นร้อยหลัง) หลวงพี่ก็มีเหตุผล เพราะกว่าธรรมทายาทจะเข้าโครงการก็อีกสองสามเดือนโน่น พึ่งมาอยู่ไม่กี่วันจะรีบสร้างอะไรกัน แต่เมื่อท่านอ้างชาวบ้าน หลวงพี่ก็เลยของบเตรียมสถานที่จากวัดพระธรรมกายมาได้จำนวนหนึ่ง ตกลงกันว่าจะสร้างอาคารที่พักและห้องน้ำให้ธรรมทายาทตรงสนามด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ด้านขวามือของพระยืน ตัวหลวงพี่เองไม่มีความรู้เรื่องการก่อสร้างเลย แค่ตกลงกันคร่าวๆว่า ให้ทำเป็นโรงนอนให้พักกันได้สักหลายๆสิบคน ประหยัดสุด ประโยชน์สูง อะไรต้องซื้อก็ซื้อ วัศดุอะไรที่วัดมีอยู่พวกไม้เก่าที่เก็บไว้ก็เอามาใช้ และให้ชาวบ้านมาช่วยกันสร้าง ให้ท่านเป็นผู้ควบคุมดูแลโดยให้เงินท่านไปเป็นงวดๆ หลวงพี่ดูใบเสร็จที่ท่านไปซื้อวัสดุก่อสร้างเห็นว่าสมเหตุสมผลก็ไม่ได้ติดใจอะไร ดูท่านมีความสุขขึ้นทีเดียวเมื่อมีงานก่อสร้างและได้ชักชวนชาวบ้านมาช่วยกัน วันหนึ่งเป็นช่วงที่หลวงพี่ไม่อยู่ ทราบว่าท่านจัดทอดผ้าป่า มีการเข้าทรงฤาษีด้วย เพื่อหางบมาทำพื้นศาลา 

        แต่มีข้อสังเกตุว่าท่านจะไม่ยอมให้หลวงพี่อยู่กับชาวบ้านตามลำพังเลย เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านไปทำธุระอย่างอื่นและผ่านมาเห็นหลวงพี่คุยกับชาวบ้านท่านจะต้องเข้ามาถามทุกครั้งว่าชาวบ้านคุยอะไรกับหลวงพี่บ้าง (ตอนหลังมาทราบว่าท่านก็จะไปถามชาวบ้านเช่นกันว่าหลวงพี่ถามอะไรบ้าง) วันหนึ่งหลวงพี่เข้าไปอาคารที่ท่านพักก็เห็นกล่องภายในมีปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้วอยู่จำนวนมาก ท่านบอกว่าใช้ทำตะกรุด หลวงพี่ก็เตือนท่านว่าพวกเดรัจฉานวิชานั้นอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า 






ตัวอย่างเดรัจฉานววิชา ตะกรุด 108 ดอกที่คาดเอา 

           วันหนึ่งท่านก็มาบอกว่าทำใมหลวงพี่ต้องเช่ารถและจ้างคนขับ ชาวบ้านว่ามันไม่จำเป็นเพราะอยากจะไปไหนมาไหนแค่บอกชาวบ้านเท่านั้นเองเขาพร้อมจะช่วย แต่ข้อนี้หลวงพี่ไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะหลวงพี่ต้องออกไปชวนคนบวชไกลๆ ในป่าในเขาแทบทุกวัน รู้สึกเกรงใจชาวบ้าน (ภายหลังคนขับรถมารายงานว่า วันหนึ่งไปซื้อวัสดุก่อสร้างด้วยกัน คนขับรถเดินไปดูใบเสร็จที่ท่านซื้อของทำให้ท่านไม่พอใจมาก)



และแล้ววันสำคัญก็มาถึง 



         ภายในแค่ไม่ถึงเดือนนับแต่หลวงพี่ย้ายเข้ามาอยู่ที่เขาวงพระจันทร์ .. ท่านลงไปทำธุระที่แม่สอด วันนั้นเองก็มีชาวบ้านมาถามหลวงพี่ว่ารู้จักพระรูปนั้นนานหรือยัง เพราะท่านก็พึ่งจะมาถึงแม่จันประมาณเดือนเดียวและบอกกับชาวบ้านว่าท่าน (หมายถึงหลวงพี่รูปนั้น) มาจากวัดพระธรรมกายซึ่งมีเงินเยอะ และวัดพระธรรมกายจะมาลงทุนพัฒนาสำนักสงฆ์แห่งนี้ จำนวนเงินที่ท่านบอกชาวบ้านนั้นมากโขเชียวแหละ ขออย่างเดียวให้ชาวบ้านช่วยรื้อกุฏิเก่าๆออก และให้ช่วยกันตัดต้นไม้และกอไผ่รกๆให้หมด หลวงพี่ก็อธิบายไปว่าท่านบวชในโครงการที่วัดจัดก็จริงแต่จะอ้างว่าเป็นพระวัดพระธรรมกายนั้นไม่ได้ เรื่องวัดพระธรรมกายมีเงินเยอะนั้น ค่าใช้จ่ายเยอะกว่า อย่างจัดบวชทั่วประเทศนี่ก็ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล หลวงพี่ก็เลยถามว่าจริงไหมที่ท่านอ้างชาวบ้านอย่างโน้นอย่างนี้เช่นเรื่องไม่อยากให้จ้างคนขับรถ ชาวบ้านก็บอกว่าไม่จริง พระอาจารย์มีรถเองก็ดีแล้ว ใครจะว่างไปส่งพระอาจารย์ได้ทุกวัน
         
         .. อ้ออย่างนี้นี่เอง .. วันแรกๆที่หลวงพี่มาถึงจึงเห็นต้นไผ่ลำเบ้อเร่อจำนวนมากโดนฟันยืนแห้งตายอยู่ริมเขา และมีกอไผ่ที่โดนไฟเผาอีกหลายกอทั้งบริเวณหลังครัวและสนามหญ้าที่พระสีวลีอยู่ นอกจากนั้นยังมีเศษอัฐบริขารเครื่องใช้ของพระอยู่ในบริเวณกุฏิเก่าที่พึ่งถูกรื้อถอนออกไปด้วย กุฏิเก่าที่โดนรื้อไปนั้นอยู่บริเวณริมเขาตรงกันข้ามกับสนามหญ้าด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ชาวบ้านบอกว่าก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ พระครูวัดบนบอกหลวงพี่ว่าเมื่อก่อนนั่งรถผ่านเขาวงพระจันทร์มองเข้ามาจะเห็นเป็นดงไผ่ร่มครึ้ม ท่านมาอยู่แค่เดือนเดียวโล่งโจ้งหมด ตอนหลังชาวบ้านก็มาบอกว่าเคยมีเจ้าที่พิทักษ์ป่ามาหาพระรูปนั้นสงสัยจะเป็นเรื่องการตัดต้นไม้



ภาพกุฏิที่ไฟไหม้จริง



         ส่วนเรื่องกุฏิที่โดนไฟไหม้นั้นเรื่องราวก็คลุมเครือมาก หาข้อสรุปไม่ได้ว่าเกิดเพราะอะไร รู้แต่ว่าคืนที่ไฟไหม้ ทั้งพระทั้งเณรก็จำวัตรอยู่ในนั้น ท่านบอกหลวงพี่ว่าวันนั้นมีชายแปลกหน้าคนหนึ่งมาขอพักด้วย พอตกกลางคืนก็มีรถคันหนึ่งมาจอดอยู่แถวๆวัดแล้วชายคนนั้นก็หายไปพร้อมกับรถคันนั้นขณะที่ไฟไหม้ แต่พอถามสามเณรกับชาวบ้านก็ไม่มีใครเคยเห็นชายและรถคันดังกล่าว .. 

          เมื่อพบกันในเช้าวันรุ่งขึ้นต่อหน้าชาวบ้าน ท่านจำนนต่อพยานหลักฐาน ก่อนจากไปท่านได้กล่าวอาฆาตหลวงพี่ไว้ด้วย


  เมื่อทราบเรื่องราว 
 พระอาจารย์ที่ดูแลจังหวัดตาก......ได้แนะนำให้หลวงพี่ 
 ถอนตัวออกจากพื้นที่เพราะห่วงว่าจะเป็นอันตราย  


          หลวงพี่คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจอยู่ต่อ แต่ก็เสียวๆอยู่หลายวัน กลางคืนและเช้ามืดจะเข้าออกที่พักก็คอยระมัดระวังตัว เพื่อความไม่ประมาทหลวงพี่จึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจ .. ไม่นานก็มีคนพบว่าท่านลาสิกขาแล้ว และหลวงพี่ก็ไม่เคยเจอชายคนนี้อีกเลย ..





        หลวงพี่สอบถามความเป็นมาจนชัดเจนขึ้นในระดับหนึ่งว่า ก่อนหน้านี้มีพระรูปหนึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ต่อเนื่องกันถึงสิบกว่าปี ท่านอยู่รูปเดียวในกุฏิที่โดนไฟไหม้ไปและไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรร่วมกับชาวบ้านนัก มาไม่กี่เดือนก่อนนั้นท่านมีปัญหากับชาวบ้านซึ่งทำให้ท่านต้องย้ายออกไป ทำให้วัดร้างไปชั่วขณะ แล้วพระรูปนี้ก็มาถึงโดยที่จริงๆแล้วท่านรู้จักกับคณะคนทรงฤาษี ไม่ใช่จาริกธุดงค์มาเจอวัดร้างโดยบังเอิญอย่างที่บอกโยมป้า และคนทรงฤาษีนี้ก็มาทำกิจกรรมทรงๆสิงๆอยู่เป็นระยะๆที่นี่ เพราะชาวบ้านบางส่วนนับถือเรื่องพวกนี้ และดูเหมือนว่าเจ้าอาวาสองค์ก่อนกับคณะคนทรงนี้ไม่ค่อยถูกกัน .. 

          อ่านแล้วงงๆก็ช่างเถิดนะ เอาเป็นว่ามาถึงจุดนี้ ภายในเวลาไม่กี่เดือน สำนักสงฆ์เขาวงพระจันทร์มีหลวงพี่มาอยู่เป็นรูปที่สาม ก็ถามชาวบ้านว่า วัดพระธรรมกายไม่มีเงินเหลือเฟือจะมาสร้างอะไรอย่างที่พระรูปนั้นบอกหรอก


         "อย่างนี้แล้วยังยินดีจะให้หลวงพี่มาใช้สถานที่นี้จัดบวชอยู่ไหม"?


           ชาวบ้านบอกว่าเข้าใจและอยากนิมนต์หลวงพี่อยู่ช่วยดูแล หลวงพี่ก็เลยบอกให้ทำหนังสือแจ้งเจ้าคณะตำบลอย่างเป็นทางการ ซึ่งชาวบ้านก็ยินดี 



  หลวงพี่จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น  
เจ้าสำนักเขาวงพระจันทร์มาแต่บัดนั้น ..

>>  นี่คือสภาพสำนักสงฆ์เขาวงพระจันทร์
เมื่อไปถึงใหม่ๆ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว  <<
ทางเข้าด้านทิศตะวันตก

ศาลาตอนหลวงพี่ไปถึง


บันไดขึ้นถ้ำ

ทางเดินไปถ้ำ


ภายในถ้ำ


ด้านหลังพระพุทธรูป ต้องคลานเข้าไปเหมือนตุ๊กแกเข้าไปข้างใน

อาคารเอนกประสงค์


ครัว


2 ก.ย. 2559 11:02 
โดยพระธาดา จรณธโร

ประธานมูลนิธิธรรมชาติพิสุทธิ์
(องค์กรสาธารณประโยชน์)




อ่านบทนำ - บทที่ 6ได้ที่ 
http://buddhisthotissue.blogsp ot.jp/2016/08/series_1.html


อ่านบทที่ 7 : ชีวิตคือการเดินทาง ได้ที่

อ่านบทที่ 8 : Been there .. Done that ..
http://buddhisthotissue.blogspot.sg/2016/08/8-been-there-done-that-series.html

อ่านบทที่ 9 : My way
http://buddhisthotissue.blogspot.jp/2016/08/9-my-way-series.html

อ่านบทที่ 10 : ซาโยนาระ
http://buddhisthotissue.blogspot.jp/2016/08/10-series.html

อ่านบทที่ 11 : ชีวิตใหม่...ในเพศสมณะ
http://buddhisthotissue.blogspot.jp/2016/09/11-series.html

อ่านบทที่ 12 : หนีเสือปะจระเข้
http://buddhisthotissue.blogspot.jp/2016/09/12-series.html

อ่านบทที่ 13 : จากเทือกเขาถนนธงชัยถึงสมุทรสงคราม
http://buddhisthotissue.blogspot.jp/2016/09/13-series.html

อ่านบทที่ 14 : อุ้มหัวใจไป...อุ้มผาง
http://buddhisthotissue.blogspot.com/2016/09/14-series.html

อ่านบทที่ 15 : อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน รุ่นห้าแสน
http://myalphabet2016.blogspot.com/2016/09/14-series.html

อ่านบทที่ 16 : สำนักสงฆ์เขาวงพระจันทร์
http://myalphabet2016.blogspot.jp/2016/09/16-series.html

Related Posts

บทที่ 17 กุฏิไฟไหม้กับตอไผ่ (เขาว่าหลวงพี่เป็น...ผู้มีอิทธิพล The series)
4/ 5
Oleh

Subscribe via email

Like the post above? Please subscribe to the latest posts directly via email.

47 ความคิดเห็น

Tulis ความคิดเห็น
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:08

คนพาลชอบจับผิดมากๆ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:08

คนพาลชอบจับผิดมากๆ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:13

เมื่อพระเข้าไป ผีก็ต้องออก พระพุทธศาสนาจะได้เจริญ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:26

เมืองไทยเมืองพุทธ จริงหรือว่ากลายเป็นอดีตเมืองพุทธไปแล้ว ช่างน่าเศร้าใจ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:29

เป็นกำลังใจให้ล.พี่สู้ต่อไปค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:40

เป็นกำลังใจให้หลวงพี่ ทำดียิ่งๆต่อไป สู้ๆๆเจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:40

เป็นกำลังใจให้หลวงพี่ ทำดียิ่งๆต่อไป สู้ๆๆเจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:41

เป็นกำลังใจให้หลวงพี่ ทำดียิ่งๆต่อไป สู้ๆๆเจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:41

เป็นกำลังใจให้หลวงพี่ ทำดียิ่งๆต่อไป สู้ๆๆเจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:44

ขอเป็นกำลังใจให้พระอาจารย์ธาดา สู้และสร้างบารมีเดินรุดหน้ากันต่อไปครับ การสร้างบุญบารมีก็มีอุปสรรคบ้างเป็นธรรมดา "มีปัญหาก็แก้ไขกันไป มีบุญกุศลก็ทำกันไป" แล้วเราจะปลื้มปีติใจ และมีความสุข ในที่สุดฯ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 05:52

ขอถวายกำลังใจให้พระอาจารย์สู้เจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:03

กราบถวายกำลังใจเจ้าค่ะธรรมะ ย่อมชนะอธรรม

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:09

เจอพระพาลคนพาลต้องทำใจสู้ดว้ยความดีความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น สาธุครับ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:09

เจอพระพาลคนพาลต้องทำใจสู้ดว้ยความดีความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น สาธุครับ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:15

ขอเป็นกำลังใจให้พระอาจารย์ค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:19

กราบถวายกำลังใจและอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์เจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:26

กราบถวายกำลังใจแด่ //หลวงพี่ธาดาค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:27

พระอาจารย์ท่านไปที่นั่นเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาโดยแท้ และพาผู้คนให้เห็นชอบตามหลักพระพุทธศาสนา กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ด้วยค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:32

กราบถวายกำลังใจพระอาจารย์ค่ะ สาธุ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:32

นับถือน้ำใจพระอาจารย์ค่ะ มุ่งมั่นมาก

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 06:43

คนบาปชอบหาเรื่องพระ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 07:43

ความดีชนะทุกสิ่ง ความจริงชนะทุกอย่าง

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 07:43

ความดีชนะทุกสิ่ง ความจริงชนะทุกอย่าง

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 07:46

ขอถวายกำลังใจพระคุณเจ้าผู้เสียสละและทุ่มเทค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 08:09

กราบอนุโมทนาบัญกับหัวใจนักสู้อันยิ่งใหญ่ครับ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 08:16

กราบถวายกำลังใจหลวงพี่..หัวใจอัศจรรย์ความดีที่สั่งสมประดุจดังทองคำที่นับวัน มีแต่เรื่องราวอันทรงคุณค่าต่อการจดจำบนหน้าประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 08:39

ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 08:57

ธาตุธรรมแกร่งจริงๆค่ะ อ่านแล้วนึกภาพตาม ใครใจไม่ถึงและรักพระศาสนาจริงก็จะเหมือนพระที่อยู่รูปแล้วมา

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 08:59

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่ตั้งใจปกป้องพระพุทธศาสนาอย่างดีเยี่ยม

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 10:07

การสร้างบารมีของหลวงพี่มีแต่เรื่องราวตื่นเต้นชวนให้จดจำเป็นประสบการณ์มากมาย อนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ด้วยค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 10:35

กราบถวายกําลังใจ ให้หลวงพี่สู้ต่อไปเจ้าค่ะ สาธุค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 10:35

ถวายกำลังใจเจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 10:35

ถวายกำลังใจเจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 11:35

อุปสรรคมีไว้ให้ข้าม สู้ต่อไปให้ถึงเป้าหมาย กราบถวายกำลังใจ พระอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง สาธุๆๆครับ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 11:39

กราบถวายกำลังใจเจ้าค่ะ สู้ต่อไปเจ้าค่ะเพื่อพระพุทธศาสนาของเราเจ้าค่ะ

Reply
avatar
Lee
23 กันยายน 2559 เวลา 12:34

กราบถวายกำลังใจเจ้าค่ะ

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 12:58

กราบอนุโมทนาบุญและกราบถวายกำลังใจให้หลวงพี่สู้ต่อไปนะเจ้าคะ เพื่อโปรดสัตว์และฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้เข้าถึงใจชาวบ้านผู้ด้อยโอกาส นี่คือ บุญของหลวงพี่โดยแท้ ไม่เช่นนั้น หลวงพี่คงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ กราบสาธุๆๆเจ้าค่าาา

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 14:09

กราบอนุโมทนาบุญและเป็นกำลังให้พระอาจารย์เจ้าค่ะ


Reply
avatar
ไม่ระบุชื่อ
23 กันยายน 2559 เวลา 16:10

สาธุค่ะ

ความดีชนะทุกสิ่ง ความจริงชนะทุกอย่าง

Reply
avatar
23 กันยายน 2559 เวลา 19:23

ไปปลุกสร้างความศรัทธาให้กับประชาชนคนมีบุญ ถือว่าเป้นคนมีบุญมาก สาธุ

Reply